"สิริพงศ์" โต้ "วันนอร์"ตีความแคบ หลังบอก ฝ่ายค้านแค่ยื่นซักฟอก นายกฯ ก็ยุบสภาไม่ได้แล้ว ย้ำเงื่อนไขห้ามยุบสภาฯ จะครบถ้วนต่อเมื่อ"ประธานสภา" ตรวจญัตติเสร็จสิ้นและแจ้งให้นายกฯ รับทราบเป็นทางการเท่านั้น
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยกรณีที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นว่า การที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว นายกรัฐมนตรีจะไม่สามารถยุบสภาฯ ได้
นายสิริพงศ์ระบุว่า ตนมองว่าการตีความของประธานสภาฯ แคบเกินไป และไม่ได้อิงกับข้อเท็จจริงที่ใช้ปฏิบัติ เพราะตามเงื่อนไขทางกฎหมาย นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาฯ ไม่ได้ ก็ต่อเมื่อมีการยื่นญัตติไปแล้ว เว้นแต่มีการถอนญัตติ หรืออภิปรายเสร็จสิ้นและเสียงลงมติได้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง
"แต่ในความเป็นจริง การที่ฝ่ายค้านมายื่นญัตติ ไม่เพียงพอเป็นเหตุ ที่จะมาบอกว่าฝ่ายบริหารจะยุบสภาฯ ไม่ได้" นายสิริพงศ์กล่าว พร้อมอธิบายว่า ประธานสภาฯ มีหน้าที่ในการ ตรวจญัตติ ให้ครบถ้วนก่อน และต้อง แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ อย่างเป็นทางการ
ดังนั้น การที่จะบอกว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถยุบสภาฯ ได้ จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ครบถ้วน คือ:
1 ประธานสภาฯ ตรวจสอบญัตติเสร็จสิ้น
2 บรรจุญัตติดังกล่าวลงในระเบียบวาระ
3 แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ
เมื่อสามขั้นตอนดังกล่าวครบถ้วนแล้ว จึงจะถือได้ว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์ยุบสภาฯ ชั่วคราว
นายสิริพงศ์ยังได้ยกตัวอย่างการปฏิบัติในอดีตสมัยรัฐบาลที่แล้ว กรณีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พาดพิงบุคคลภายนอก ซึ่งในครั้งนั้น ประธานสภาฯ คือนายวันมูหะมัดนอร์ ก็ยัง ไม่รับบรรจุในทันทีทันใด และขอให้ฝ่ายค้านกลับไปแก้ไขญัตติหลายครั้ง
“การกระทำของอาจารย์วันนอร์ในอดีต จึงเป็นสิ่งยืนยัน ว่าประธานสภาต้องตรวจญัตติก่อน และเงื่อนไขที่จะครบถ้วนว่านายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์ยื่นยุบสภาฯ คือ ต้องตรวจญัตติก่อน และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ ดังนั้นการที่พูดแบบนั้นออกมา เท่ากับว่า ย้อนแย้งกับสิ่งที่ท่านเคยทำมาในอดีต” โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ นายสิริพงศ์ย้ำว่า การออกมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะยุบสภาก่อนหรือไม่ แต่ไม่อยากให้มีการพูดเรื่องเหล่านี้กลับไปกลับมา เพราะนายกรัฐมนตรีได้พูดหลายรอบแล้วว่าจะดำเนินการไปตามกรอบของบันทึกความเข้าใจ (MOA)
