"กมธ.แก้รธน." เดินหน้าพิจารณารายมาตรา รับข้อเสนอ "ภูมิใจไทย" ปรับเกณฑ์โหวต แต่ยังติด "สว."

นพ.ชลน่าน เผย กมธ.แก้รธน.เริ่มพิจารณารายมาตรา รับข้อเสนอภูมิใจไทยปรับเกณฑ์เสียง แต่ยังไร้ข้อยุติ หลังหลายฝ่ายกังวล "สว." ไม่เห็นชอบ ชี้พรุ่งนี้ชี้ชะตาเลือกระหว่าง "สสร." หรือ "กมธ.ยกร่าง" 

ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงผลการพิจารณาของกมธ. ซึ่งวางวาระเพื่อลงมติตัดสินต่อกระบวนการและกลไกของผู้ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า เดิมที่ประชุมกำหนดให้ลงมติในประเด็นการเลือกตั้งโดยตรงหรือทางอ้อมหรือไม่ และ รูปแบบขององค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญ แต่จากการอภิปรายของกมธ. ส่วนใหญ่มองว่าหากลงมติที่ชี้ขาดแล้วจะเท่ากับปิดกั้นการแสดงความเห็นของ กมธ. เมื่อถึงวาระพิจารณาของเนื้อหาที่ได้ลงมติไปก่อนหน้านั้น ซึ่งที่ประชุมได้ใช้พิจารณากันนาน ก่อนจะมีความเห็นว่าไม่ควรใช้ลงมติตามประเด็นที่กำหนดไว้

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่าขณะที่การพิจารณาเนื้อหานั้น ขณะนี้กมธ.ได้เข้าสู่การพิจารณาเป็นรายมาตรา แล้ว โดยที่ประชุมได้รับข้อเสนอของการแก้ไขมาตรา 256 ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ มาพิจารณาแต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเนื้อหาจะเป็นตามที่เสนอหรือไม่ เพราะมี กมธ.บางคนเห็นแย้งและมองว่าการปรับเรื่องสัดส่วนการลงมติของสว. จากหนึ่งในสาม ไปเป็น หนึ่งในห้า นั้นอาจทำให้ สว. ไม่เห็นชอบ ซึ่งเสี่ยงกับการที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาได้ ทำให้กมธ.ต้องรอการพิจารณาไว้

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ขณะที่ในประเด็นสำคัญ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาในรายละเอียดและเตรียมลงมติตัดสินในการประชุมกมธ.พรุ่งนี้ (6 พ.ย.) คือ ประเด็นองค์กรเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมี 3 ประเด็น คือ ประเด็นของพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดให้มี สภาร่างรัฐธรรมนูญ​ (สสร.) ประเด็นของพรรคประชาชน ที่เป็นร่างหลัก ซึ่งเสนอให้มี กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ และประเด็นที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ. เสนอ คือ ให้มี สสร. ที่มีจำนวน 151 คน ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการพิจารณาของกมธ. ช่วงแรกนั้น ส่วนใหญ่เป็นการถกเถียงต่อประเด็นว่าจะลงติใน 2 ประเด็น คือ 1.ให้มีคูหาเลือกตั้งหรือไม่ และ 2.ให้มีองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่รูปแบบใด ระหว่าง ระดับกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ระดับสสร.และกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ที่ประชุมได้ใช้มติตัดสินในรอบแรกไปแล้ว โดยมติข้างมาก 32 เสียง เห็นว่าควรให้ลงมติตัดสิน แต่หลังจากพักกลางวัน ที่ประชุมได้กลับมาพิจารณาอีกครั้งก่อนจะลงมติอีกครั้งเพื่อกลับมติที่ลงมติไปก่อนหน้า ซึ่งเสียงข้างมาก 31 เสียงเห็นว่าให้ปรับมติ จึงทำให้วาระการโหวตตามประเด็นที่กำหนดไว้ก่อนหน้านั้นไม่ถูกพิจารณา

ก่อนที่กมธ.จะเห็นพ้องให้เข้าสู่การพิจารณาเป็นรายมาตรา ซึ่งสามารถผ่านการพิจารณาไปได้ 4 มาตรา และในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.) จะเข้าสู่มาตรา 256/1 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญต่อกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือ การกำหนดองค์กรที่ทำหน้าที่ ซึ่งที่ประชุมยังมีความเห็นแตกต่างกัน ทำให้ต้องใช้การลงมติตัดสิน
 
 
 

TAGS: #แก้ไขรัฐธรรมนูญ # กมธ.แก้รธน. #สว. #สสร. # ชลน่านศรีแก้ว