“จตุพร” ฝากกองเชียร์ด้อมส้ม “ก้าวไกล” ตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่ แนะให้อยู่ในโลกความจริง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ถนนหรือทำเนียบ?" ออกอากาศเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในประเด็นความเป็นไปได้ของพรรคก้าวไกลที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล ความตอนหนึ่งว่า จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แน่

"วันนี้กองเชียร์พรรคก้าวไกลทั้งหลายคุณฟังผมดีๆ คือ ถ้าอยู่ท่ามกลางคำสรรเสริญเยินยอว่าคุณเป็นรัฐบาลได้ ใครเห็นว่าคุณจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ คุณก็ประกาศฟาดงวงฟาดงา เขาไม่ต้องแสดงความคิดเห็นคุณก็จัดตั้งไม่ได้อยู่แล้ว เพราะการไปถึงตัวเลข 376 มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้เลย คือ ขณะนี้ ไป 313+16 เป็น 329 ไกลมั้ยกับ 376 และจะเอามาจากไหน เอามาจากชาติพัฒนากล้า มีกรณ์ไม่มีกู พรรคใหม่ก็ไม่เอา

พวกนักการเมืองเขี้ยวลากดินก็พรรคที่ 2 ก็ไปดีลประชาธิปัตย์ที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อวันก่อนว่าจะได้มา 24 เสียง ประชาธิปัตย์เข้าไปก็ตาย เพราะว่าไม่ถึง 376 อยู่ดี แต่ว่าได้ 24 อยู่แล้วอาจจะเหลือ 4 ก็ได้ เขาก็ไม่ไปและถามว่าอย่างไรกันต่อ ที่เรานั่งพูดให้ฟังกันทุกวัน พูดเพื่อให้คิด ไม่ใช่พูดเพื่อให้โง่ มันมาถึงทางตันแล้วต้องคุยกันแล้ว ถ้าไม่คุยแล้วจะไปคุยกับใครจะไปคุย ส.ว. ขนาดพรรคการเมืองยังมีเจ้าของเลย แล้ว ส.ว. จะไม่มีเจ้าของหรือ มีพรรคไหนที่ไม่มีเจ้าของบ้าง เพราะฉะนั้นเราจึงพูดในโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งอาจจะไม่ถูกใจ

คุณฟังก่อน แล้วคุณได้เป็นอย่างไร ก็นั่งนับตัวเลขกันอยู่ว่าอย่างไรมันไม่ถึง 376 แล้วกองเชียร์ก็ขาดสติ ใครบอกว่าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ โห สาปแช่งเรียงกันมาเลย" นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวต่อว่า สมมติตนบอกว่า จัดตั้งได้ พูดแบบนักวิชาการเป็นเสียงประชาชน เชียร์ให้ตายก็ไม่ได้ แต่กองเชียร์ก็ปรบมือ ประเทศนี้เต็มไปด้วยคนขาดสติกันทั้งบ้านทั้งเมืองได้อย่างไร ไล่เรียงเหตุผลทางวิชาการมา มันมีจริงไหม เขาออกแบบมาตั้งแต่ต้นเหมือนแบบบ้านเขาเขียนไว้แบบนี้ เขาออกแบบมาแบบนี้คุณไปสร้างผิดแบบไม่ได้ แบบเขาไม่ให้คุณเป็น เข้าใจหรือเปล่า

ในส่วนของประเด็นที่ว่าหากรอให้ ส.ว. หมดอายุก่อนแล้วใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายจตุพร กล่าวว่า มันจะเดินไปไม่ถึงเพราะว่า กกต. จะทำงานก่อน เช่น เรื่องหุ้นของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไอทีวี อยู่ๆ วันดีคืนดี ประชุมผู้ถือหุ้นและมีการตั้งคำถามอยู่ในรายงานบันทึกการประชุมว่า ไอทีวียังประกอบการอยู่หรือไม่ก่อนการเลือกตั้ง ยังไม่เข้าใจอีกหรือ

"พวกนั้นไม่ได้ลงดาบคุณ เป็นประชาธิปไตยจัดการประชาธิปไตยด้วยกัน ยังไม่เข้าใจอะไรกันอีกเหรอ มันมีที่ไหนประชุมเพื่อผู้ถือหุ้น และหนึ่งในนั้นถามประธาน ว่าไอทีวียังมีผลประกอบการสื่ออยู่หรือไม่ ตั้งคำถามนำสร้างหลักฐานให้ครบถ้วน ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ เพราะฉะนั้นนี่มันชัดเจน" นายจตุพร กล่าว

ส่วนประเด็นคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ส่งผลกับการเป็นแคนดิเดตนายกหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เหมือนกัน เพราะถ้าไม่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติ เขาจะมาลงมือทำไม เพราะฉะนั้นคือ เวลาเราตั้งคำถาม หมายถึงว่า มันมีช่อง แต่ถ้าเขาลงมือแสดงว่ามันไม่มีช่องแล้ว คือ เขาออกแบบมาเขาล็อกซ้ายล็อกขวา

"มันเป็นคุณสมบัติเดียวกัน คุณขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ปี 62 มันจะถอยหลังไปนู่น เพราะฉะนั้นอยู่ดี ๆ บริษัทในเครือใหญ่ด่าใครเป็นเจ้าของปัจจุบัน ใครเป็นเจ้าของถัดมา อยู่ดี ๆ ไปแต่งเรื่องให้ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ต้องนำสืบพิสูจน์อะไรใด ๆ ทั้งสิ้น อยู่ดี ๆ ผู้ถือหุ้นไปถามได้อย่างไร เขาต้องรู้อยู่แล้ว แต่ว่าถามเพื่อให้บันทึกเป็นหลักฐานรายงานการประชุมบริษัท เห็นไหมว่าช่องทางเวลาเขาออกแบบมันมีความอำมหิต เหมือนซีซาร์หันหลัง คนอื่นมาแทงซีซาร์ไม่สงสัยเลย นึกไม่ถึงว่าเป็นคนที่ตัวเองไว้ใจที่สุด" นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวทิ้งท้ายว่าในทางการเมือง เราต้องอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ถ้าเรามานั่งพรรณนาโวหาร โลกสมมุติ และไม่พูดความจริงกัน ติ่ง ๆ ทั้งหลายก็จะชื่นชอบ เหาะเหินเดินอากาศได้แล้ว หมายความว่า สรรเสริญว่าอย่างไรก็ได้เป็นแน่ ๆ เพราะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน ก็ไม่มีใครเถียง

"เมื่อรวมกันแล้วไม่ถึง 376 ลองไปถามพรรคการเมือง 8 พรรค ละครฉากแรก จัดตั้งไม่ได้หรอก ลองถามทุกคนดู แต่ทุกคนยิ้มกะล่อน มันเป็นอย่างนี้จริงๆ เพราะฉะนั้นการเมืองถ้าไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นข้อเท็จจริง เอาสบายใจเอาได้แต่ว่ามันจะทุกข์ใจอีกไม่กี่วัน" นายจตุพร กล่าว