"สุทิน" อัดรัฐบาลที่ตั้งจาก MOA มีข้อจำกัดรอบด้าน ทั้งเวลา งบ และเสียงในสภา เสี่ยงกลายเป็น "เป็ดง่อย" ขณะที่ "พริษฐ์" เรียกร้องนายกฯ โฟกัสแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ที่รัฐสภา สุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาล วิจารณ์ว่ารัฐบาลที่ตั้งขึ้นจากข้อตกลง MOA กำลังเผชิญข้อจำกัดรอบด้าน ทั้งกรอบเวลาเพียง 4 เดือน งบประมาณไม่ชัดเจน และสถานะเสียงข้างน้อยในสภา เสี่ยงทำให้รัฐบาลกลายเป็น “เป็ดง่อย” ไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายสำคัญได้จริง
สุทินตั้งข้อสังเกตว่า หลายนโยบายที่เสนอ เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม และปฏิรูปการศึกษา ใช้เวลาเป็นปี ไม่อาจทำได้ใน 4 เดือน ขณะที่งบประมาณก็ไม่ได้จัดสรรเอง แต่ต้องใช้จากรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งอาจขาดความกล้าหาญในการเบิกใช้
เขายังชี้ว่ารัฐบาลกำลังเผชิญปัญหาความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะภาพลักษณ์นายกรัฐมนตรีที่สื่อต่างชาติขนานนามว่า “ราชากัญชา” จนอาจกระทบต่อการลงทุนและการท่องเที่ยว พร้อมเตือนว่า หากไม่สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดได้ 4 เดือนนี้อาจกลายเป็น “สูญเปล่า” และสุดท้ายอาจไม่ได้แม้แต่รัฐธรรมนูญใหม่ตามที่ตั้งเป้าไว้
สุทินทิ้งท้ายว่า หากรัฐบาลยังติดหล่มข้อจำกัดและแรงกดดันจาก MOA ทางออกที่ควรทำคือ “ตั้งนายกฯ แล้วไปยุบสภา” เพื่อให้ได้รัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มในการแก้ไขปัญหาประเทศอย่างแท้จริง
"พริษฐ์" จี้นายกฯ เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า–วางโรดแมปแก้รัฐธรรมนูญ
ทางดั้าน พริษฐ์ วัชรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า รัฐบาลปัจจุบันเป็น “รัฐบาลเฉพาะกาล/อายุสั้น 4 เดือน” และเป็นเสียงข้างน้อย จึงควรโฟกัสแก้ ปัญหาเฉพาะหน้า มากกว่าผลักดันเรื่องใหญ่ที่ทำไม่ทัน
เสนอ “3 สงครามเร่งด่วน”
เศรษฐกิจในประเทศ หนุน “คนละครึ่งพลัส” แต่ต้องออกแบบให้ “เพิ่มยอดบริโภคจริง” ไม่ใช่แค่ย้ายยอดขาย
การค้าระหว่างประเทศ แก้ปัญหา “สินค้าสวมสิทธิ์” และทำมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดให้ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม เพื่อพยุงผู้ประกอบการไทยท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ และสินค้าราคาถูกจากจีน
ชายแดนไทย–กัมพูชา เร่งคืนความปลอดภัยประชาชน ตัดท่อน้ำเลี้ยงธุรกิจสีเทาที่สร้างความชอบธรรมให้เครือข่ายอิทธิพลข้ามชาติ
กำชับรัฐบาลทำ 3 ไม่ เพื่อไม่ทิ้งภาระให้รัฐบาลถัดไป
ไม่ขายของ (นโยบายเอาใจหาเสียงระยะสั้น เช่น ลดค่าครองชีพด้วยเงินภาษีโปะ โดยไร้โครงสร้างรองรับ)
ไม่ขายฝัน (เร่งดันกฎหมายใหญ่จำนวนมากใน 4 เดือน ซึ่งเป็นไปได้ยาก เช่น พ.ร.บ.การศึกษา/สภาพภูมิอากาศ/การพนัน)
ไม่ขายสมบัติของชาติ (คุ้มครองทรัพยากรและสถาบันการเมือง—กรณี เขากระโดง ต้องเดินหน้าทวงคืนที่รัฐ, จัดการปัญหา ฮั้ว ส.ว. และผลประโยชน์ทับซ้อนให้ชัด)
ประเด็นค่าครองชีพ: ชี้ว่าการลดค่าโดยสาร–ค่าไฟ ทำได้จริงก็ต่อเมื่อ มีเครื่องมือเชิงโครงสร้าง (เช่น พ.ร.บ.ตั๋วร่วม, ทบทวนสัญญาไฟฟ้าเอกชน) ไม่ใช่อาศัยงบอุดหนุนระยะสั้นที่เบียดพื้นที่การคลังปี 2569
เรื่อง MOU ไทย–กัมพูชา และการทำประชามติ: ขอคำตอบชัดเจนเรื่องกรอบเวลา เนื้อหาคำถาม วิธีรองรับหากยกเลิก MOU และความพร้อมของคณะกมธ.วิสามัญที่มีเวลาศึกษาเพียง 4 เดือน
โรดแมปแก้รัฐธรรมนูญ: ให้รัฐบาลยืนยัน 2 เรื่อง
ทำ ประชามติรอบแรกพร้อมเลือกตั้ง ภายในสิ้น ม.ค. 2569 (รวมคำถาม “ทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่” และ “เห็นด้วยกับการแก้หมวด 15/1 หรือไม่”)
สนับสนุนโมเดล ส.ส.ร.ที่มีประชาชนอยู่ในสมการ ไม่ใช้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นข้ออ้างถอยการมีส่วนร่วม
ปิดท้าย พริษฐ์ท้าให้นายกฯ พูดให้ชัด เรื่อง คดีเขากระโดง และ ฮั้ว ส.ว. เพื่อยืนยันว่าจะ “ไม่มีมวยล้มต้มคนดู” และจะไม่สร้างความเสียหายยาวนานจากรัฐบาลอายุสั้นใน 4 เดือนนี้.