“ก่อแก้ว” ซัด "อนุทิน"ตั้งรมต.คนใกล้ “เนวิน" เหน็บ แบบนี้ตั้ง“กระทรวงบุรีรัมย์”ไปเลย 

“ก่อแก้ว” ซัด
“ก่อแก้ว” ซัด "อนุทิน"ตั้งรมต.คนใกล้ “เนวิน" เหน็บ แบบนี้ตั้ง“กระทรวงบุรีรัมย์”ไปเลย ชี้ "อนุทิน" ไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง เพราะนายกฯตัวจริงชื่อ "อนุวิน"ด้าน “โสภณ“ลุกป้อง ”ไชยชนก“ เป็น รมว.เพราะความสามารถ

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน โดยตั้งข้อสังเกตว่า แม้คำแถลงของนายกรัฐมนตรี จะเต็มไปด้วยถ้อยคำสวยหรู แต่กลับขัดแย้งกับการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดนี้

นโยบายที่นายอนุทิน แถลงมีถ้อยคำที่ดูดี เช่น จะเร่งแก้ปัญหาประเทศ , ยึดมั่นในหลักนิติธรรม , ขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาด , ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง

แต่เมื่อพิจารณาการแต่งตั้งรัฐมนตรี พบว่าหลายคนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ขาดศักยภาพ และบางรายยังมีประเด็นที่ถูกตั้งคำถามในสังคม โดยก่อแก้วระบุว่าเป็น “นอมินีของผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรคภูมิใจไทย” 

ตัวอย่าง “รัฐบาลนอมินีบุรีรัมย์” นายก่อแก้ว ยกตัวอย่างการแต่งตั้งบุคคลสำคัญ 3 ราย คือ นายโสภณ ซารัมย์ ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นคนใกล้ชิดนายเนวิน ชิดชอบ และสังคมยังจำได้ถึงเหตุการณ์ปี 2554 เมื่อบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกปล้นเงินสดกว่า 200 ล้านบาท โดยคนร้ายยืนยันว่าภายในมีไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ถ้าบ้านปลัดยังมีเงินสดขนาดนี้ บ้านรัฐมนตรีจะมีมากขนาดไหน

พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม ทั้งที่เป็นเพียงอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และใกล้ชิดครูใหญ่เนวิน ทั้งที่กระทรวงนี้ควรเป็นตำแหน่งของแกนนำหลักในพรรค แต่กลับแต่งตั้งบุคคลภายนอกซึ่งไม่ต้องผูกพันสร้างผลงานให้พรรค ก่อแก้วตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการแต่งตั้งเพื่อภารกิจเฉพาะ เช่น “คดีฮั้วเลือกตั้ง ส.ว.” ที่แกนนำภูมิใจไทยถูกสอบสวนอยู่

และ นายไชยชนก ชิดชอบ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งที่ถูกตั้งคำถามเรื่องประสบการณ์และศักยภาพ ขณะที่ตำแหน่งนี้ต้องการบุคคลที่ทำงานได้ทันทีเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน โดยเฉพาะการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และแก๊ง Call Center Scam ที่กลับมาระบาดอีกครั้ง

นายก่อแก้ว กล่าวอีกว่า การแต่งตั้งเช่นนี้ไม่ใช่การยึดประโยชน์ประเทศเป็นหลัก แต่เป็นระบบอุปถัมภ์เพื่อพวกพ้อง และคำถามเรื่องนิติธรรม ถ้าจะตั้งกันแบบนี้ แนะนำให้ตั้ง กระทรวงบุรีรัมย์ ไปเลยดีกว่า ขนาดทะเบียนบ้านนายกฯ ยังอยู่บุรีรัมย์ ก็น่าจะย้ายทำเนียบไปตั้งตรงเขากระโดงให้ชัดเจนไปเลย ไม่ได้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ไม่ดี แต่คนบางคนไม่ควรใช้อำนาจเช่นนี้ เพราะประชาชนไม่สบายใจ

นายก่อแก้ว ยังตั้งคำถามถึงคำมั่นที่ว่า จะยึดมั่นในหลักนิติธรรม ว่าไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น กรณีที่ดินเขากระโดง ศาลฎีกาตัดสินแล้วว่าต้องยึดคืน แต่รัฐบาลยังยึกยักไม่ดำเนินการ คดีฮั้วเลือกตั้ง สว. ที่นายกรัฐมนตรี พูดซ้ำว่า "พวกท่านไม่ได้ทำผิด" ซึ่งเป็นการชี้นำและกดดันเจ้าหน้าที่ การโยกย้ายอธิบดี DSI ที่สร้างปัญหาต่อกระบวนการบริหารยังกล้าแถลงนโยบายว่าจะยึดหลักนิติธรรม จะยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งได้อย่างไร

ตอนท้าย นายก่อแก้ว กล่าวว่า ส่วนตัวยังเชื่อว่านายอนุทินเป็นคนดี แต่เมื่อเข้าสู่การเมืองกลับไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง พร้อมฝากเตือนว่า ถ้าท่านยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง สังคมจะชื่นชม แต่ถ้าปล่อยให้คนอื่นครอบงำ ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของพรรคและพวก สังคมจะประณาม และจะกล่าวขานว่านายกรัฐมนตรี ตัวจริงไม่ใช่ อนุทิน แต่เป็น อนุวิน...กินรวบประเทศ

ด้าน นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงภายหลังนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวอภิปรายพาดพิงถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคนในจังหวัดบุรีรัมย์ว่า วันนี้เป็นวันพระ การจะกล่าวอะไรในสภาฯ ศีลข้อ 4 ตนเองระวังอยู่แล้ว ท่านจะระวังหรือไม่ก็เป็นเรื่องของท่าน แต่จะขอชี้แจงเพราะตนเองเสียหายมาก เรื่องผู้นำทางจิตวิญญาณนั้น ตนเองก็เคยเป็นผู้ร่วมขบวนการทางจิตวิญญาณของพรรคท่านมาก่อน จึงรู้ว่าอะไรคืออะไร 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 ตนเองออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นรัฐบาลในยุคท่าน ถ้าบอกว่าบ้านรัฐมนตรีมีเงินเท่านั้นเท่านี้ กรุณาไปกล่าวโทษ ขออย่ามาพูดพล่อย ๆ เช่นนี้ คนบุรีรัมย์รู้ว่านายโสภณเป็นคนอย่างไร ส่วนเรื่องบุรีรัมย์ท่านก็รู้แก่ใจ จะพูดทำไมเพราะเข้าตัวตนเอง นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นบุตรของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ผิด การได้มาเป็นรัฐมนตรีก็มาตามความสามารถคือ เป็น สส.และได้มาเป็นรัฐมนตรี แต่พรรคท่านเอาลูกมาเป็นนายกฯ  ตนเองไม่อยากใช้วาทำกรรมเช่นนี้ แต่เป็นครั้งแรกที่ตนเองต้องใช้

นายโสภณ กล่าวต่อว่า เมื่ออยู่กับท่าน ท่านว่าดี เมื่อพวกตนออกมา เป็นคนชั่วทันที เลิกเถอะ การเมืองแบบนี้ เรื่องบุรีรัมย์ไม่มีเรื่องอะไรเสียหาย ก่อนหน้านี้ผมพูดเรื่องยาเสพติดมีบุรีรัมย์ที่เดียวที่ทำเป็นรูปธรรม ท่านกรุณายกจังหวัดท่านให้เห็นหน่อย ฉะนั้นอย่ามาใช้วาทกรรม ในสภาฯ ที่สร้างสรรค์ สภาฯ ยุคใหม่ คนยุคใหม่จะได้เอาตัวอย่างพวกเรา

นายโสภณ กล่าวต่อว่าการจะตั้งคนบุรีรัมย์เป็นรัฐบาลหรือเป็นรัฐมนตรีกี่คนไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าจะผิดต้องดูว่าหลังจากที่แถลงนโยบาย เขาทำอะไรผิดค่อยว่า ถ้าพวกตนเองทำตามคำปรามาสของพวกท่าน พวกตนเองเป็นผู้ร้ายทันที วันไหนที่ท่านสบประมาทแล้วพรรคภูมิใจไทยหรือคนบุรีรัมย์ไม่ได้ทำแบบที่ท่านว่า พวกตนเองจะเป็นพระเอกเอง ขอให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน

ขณะที่นายไชยชนก ชี้แจงว่า ตนน้อมรับว่าไม่มีประสบการณ์ แต่ไม่ว่าจะทำหน้าที่ไหน ทำอย่างเต็มกำลังเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ตนก้าวมาในอุตสาหกรรมฟุตบอล ตนไม่มีประสบการณ์ แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ยกระดับอุตสาหกรรมฟุตบอลให้เป็นอยู่ทุกวันนี้ เมื่อตนก้าวสู่อุตสาหกรรมอีสปอร์ต ตนไม่มีประสบการณ์ แต่พาเด็กไทยไปแชมป์โลก ในเวลา 3 ปี วันที่ตนก้าวสู่วงการการเมือง ตนไม่มีประสบการณ์ แต่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยประเทศไทยให้พ้นจากภัยความมั่นคงสำคัญ คือเอาพวกท่านออกจากการบริหารสูงสุดประเทศ

“แม้ผมน้อมรับว่าไม่มีประสบการณ์เป็นฝ่ายบริหาร แต่สัญญาว่าจะทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และผมยอมรับว่าเริ่มตั้งแต่เข้ามา ยังไม่ได้แถลงนโยบาย มีเรื่องหลายเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกสงสัยในระบบประเพณีปฏิบัติของฝ่ายบริหาร ที่ท่านพูดถึงเรื่องปราบคอลเซ็นเตอร์ อย่างมีความตั้งใจ ผมยังไม่เข้ารับตำแหน่ง มีคนติดต่อหาผม ผ่านสมาชิกที่รู้จักผม เสนอมอบเงินให้ผมเดือนละ 40 ล้านบาท เพื่อไม่ให้จับเรื่องคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็บไซต์ทำให้สงสัยว่าประเพณีปฏิบัติของ รมว.ดีอีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่ผมปฏิเสธไปแล้ว นอกจากนั้นมีหลายเรื่องที่อยากศึกษา เพราะมีความเอ๊ะ แม้ผมไม่มีประสบการณ์แต่จะทำงานตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญทุกประการภายใน 4 เดือน” นายไชยชนก ชี้แจง

ทำให้นายก่อแก้ว  อภิปรายต่อว่า เมื่อพูดมาแบบนั้น ขอความกรุณาให้กระชากหน้ากากมาให้สังคมรู้และจับกุมด้วย

ซึ่งนายไชยชนก ชี้แจงว่า ตนจะพยายาม แต่พูดแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้รับความร่วมมือหรือไม่ แต่จะพยายาม ตนน้อมรับความเห็นที่ระบุว่า รัฐบาลเนทิน ตนไม่แน่ใจ เพราะเป็นรัฐบาลน้องใหม่ ต้องเป็นรัฐบาล ทักเซน หรือ ฮุนษิณ หรือไม่

TAGS: #ประชุมสภา #อนุทิน #ก่อแก้ว #เพื่อไทยบุรีรัมย์