สภาประท้วงวุ่น "พ.ต.อ.ทวี" อภิปรายคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ด้าน ส.ส.ภูมิใจไทย โวย บอกไม่เกี่ยวนโยบายรัฐบาล ด้าน"ทรงศักดิ์" ลุกโต้บอก ศาลพิพากษาแล้ว ไม่มีคดีไหนตัดสินให้เป็นที่ของการรถไฟฯ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายนโยบายรัฐบาล มีเนื้อหาพาดพิงถึงปัญหาที่ดินเขากระโดง โดยระบุว่า มี 9 คำพิพากษาทั้งศาลฎีกา และศาลปกครองระบุว่า ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แต่กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่ยอมดำเนินการเพิกถอนที่ดินดังกล่าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา
ทำให้สส.พรรคภูมิใจไทยพากันลุกขึ้นมาประท้วง อาทิ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง ระบุว่า อภิปรายเรื่องเก่าซ้ำซาก ไม่เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องสมัยรัฐบาลที่แล้ว ขอให้ประธานในการประชุมช่วยควบคุมการประชุมด้วย โดยนายมงคล วินิจฉัยให้พ.ต.อ.ทวี อภิปรายอยู่ในเนื้อหานโยบายรัฐบาล เพราะขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ อย่านำเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาอภิปราย
แต่พ.ต.อ.ทวี ก็ยังไม่ยอมหยุด และกล่าวยืนยันว่า สิ่งที่อภิปรายเป็นข้อห่วงใยเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่มีบ้านอยู่ในที่ดินเขากระโดง ทำให้รฟท.ต้องเสียที่ดิน 5,083 ไร่ เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ และบ่อนทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทำให้สส.ภูมิใจไทยไม่พอใจลุกขึ้นประท้วงวุ่นวายอีกครั้ง ขอให้นายมงคล ควบคุมการประชุมให้ดี เพราะไม่ทำตามที่ประธานที่ประชุมวินิจฉัย ทำให้นายมงคลต้องปรามพ.ต.อ.ทวีอีกครั้ง
ทำให้ พ.ต.อ.ทวี เปลี่ยนประเด็นไปอภิปรายคดีฮั้วสว.ระบุว่ามีหลักฐานการฮั้ว 100 % และมีชื่อนายกรัฐมนตรีไปเกี่ยวข้อง จนสส.ภูมิใจไทย ยกทีมขึ้นมาประท้วงต่อเนื่อง มีสว.ขึ้นมาช่วยสนับสนุน เกิดความวุ่นวายตอบโต้กันไปมากับสส.พรรคเพื่อไทย และสส.พรรคประชาชาติ ที่ขึ้นมาช่วยสนับสนุนพ.ต.อ.ทวี
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไล่ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ไม่ให้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพราะทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ไม่ควรให้เป็นประธานประชุมต่อไป ขอให้เปลี่ยนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ขึ้นมาทำหน้าที่แทน
ขณะเดียวกันมีน.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ผสมโรงด้วย อภิปรายเหน็บสส.ภูมิใจไทยอย่าร้อนตัว เกิดการตอบโต้กันไปมากับสส.ภูมิใจไทย เสียเวลาไปร่วม 20 นาที ก่อนที่นายมงคลจะให้พ.ต.อ.ทวีอภิปรายต่อ โดยกำชับให้พูดอยู่ในประเด็น เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในการประชุม
ต่อมา นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า จากการฟังพ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พูดถึงเรื่องที่จะทำให้พี่น้องประชาชน หรือแม้แต่ สส. เอง อาจจะฟังแล้วมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และทำให้เสียหาย โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งหนึ่งนายอนุทิน ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และตนเองก็เป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย โดยมีการพูดถึงที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นมหากาพย์ ว่าเป็นที่หลวงและมีประชาชนเข้าไปบุกรุก ตามที่มีความเข้าใจกัน
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า หากเป็นที่หลวงจริง การจะไปครอบครองปรปักษ์ต่อเนื่อง กี่พันปี ก็เป็นเจ้าของไม่ได้ แต่มีการอ้างถึงเป็นที่พระราชทานให้กับการรถไฟ แล้วถือว่าการรถไฟเป็นเจ้าของมาตั้งแต่ พ.ศ. 2462 ต้องมีการสำรวจและต่อเนื่องมาจนถึงมีการแจ้ง ส.ค. 1 ในปี พ.ศ. 2498 หลังมีประมวลกฎหมายที่ดิน และมีข้อพิพาทแก่จำเลย ในที่สุดมีคำพิพากษา เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญ เพราะคนที่พูดเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการพูดและการแสดงออก ใครต้องพูดให้ครบ แต่ถ้าพูดไม่ครบ คนที่ฟังจะเกิดความสับสน และอาจเข้าใจไปในแนวทางที่พูดว่าเมื่อศาลตัดสินไปแล้ว ต้องทำตามคำสั่งของศาล ตนเองก็เห็นด้วย แต่ต้องดูว่าคดีความที่เกิดขึ้นนั้น มี 3 คดี ที่ศาลตัดสินพิพากษาไปแล้ว แต่ไม่มีคดีไหนเลยที่ศาลตัดสินให้เป็นที่ของการรถไฟ เพราะคนที่ไปฟ้องคดี เขาตัดสินสืบเนื่องจากคนมีที่ดินที่เป็น ส.ค. 1 หรือ น.ส. 3 ออกโฉนดไปฟ้องศาล ขอให้ศาลสั่งให้กรมที่ดินในจังหวัด ออกโฉนดให้ และการรถไฟก็ไปคัดค้าน และศาลตัดสินว่าที่ดินดังกล่าว ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ ประเด็นมีอยู่แค่นี้ แต่เมื่อนำไปพูดในสื่อ และการพูดเมื่อสักครู่สมาชิกหลายท่านเข้าใจว่าศาลตัดสิน และกรมที่ดินไม่ดำเนินการอะไร แต่ความจริงแล้ว กรมที่ดินดำเนินการหมดแล้ว เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลทุกประการ
คดีที่ 1 มีการยกคำร้องขอออกโฉนด ออกโฉนดไม่ได้ แล้วก็เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของศาล เพราะศาลระบุว่าไม่ใช่ที่ที่จะออกโฉนดได้ คดีที่ 2 ปี 2561 ก็เช่นเดียวกัน เมื่อศาลตัดสินไม่ออกโฉนดกรมที่ดินก็ยกเลิกคำขอ คดีที่ 3 ส่วนเรื่องที่มีการขอคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ปี 63 เป็นคดีที่การรถไฟเป็นโจทก์ฟ้องราษฎรเรื่องขับไล่ เมื่อศาลมีคำสั่งว่าให้เพิกถอนกรมที่ดินก็ดำเนินการเพิกถอนเป็นที่เรียบร้อย
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า สรุปว่าเขากระโดงทุกคดีกรมที่ดินได้ดำเนินการเพิกถอนเป็นไปตามคำสั่งของศาลเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าศาลตัดสินให้ที่ดินทั้งหมดเป็นที่ของการรถไฟ ย้ำว่า ไม่มี ส่วนเรื่องการดำเนินการตามมาตรา 61 เป็นเรื่องการเพิกถอน ซึ่งมีหลายวรรค หากเป็นวรรค 8 จะเป็นการเพิกถอนคำสั่งที่ดินที่มีโฉนดมีกรรมสิทธิ์ ซึ่งสามารถเพิกถอนได้ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ศาลสั่งให้มีการเพิกถอน สั่งให้อธิบดีกรมที่ดินไปตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรค 2 ที่มีการพิพาทกัน ทั้งหมดนี้สามารถเพิกถอนได้หรือไม่ ก็ดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แล้วตามกฎหมาย ไม่สามารถตั้งคนอื่นได้ ซึ่งที่ทราบมาไม่สามารถชี้แนะได้อย่างชัดเจน และการขอให้การรถไฟแสดงการได้มาซึ่งที่ดินของการรถไฟ ซึ่งการได้มาซึ่งที่ดิน ไม่เหมือนประชาชน มีกฎหมายเฉพาะ มีพระราชกฤษฎีกาจัดวางรางและทางหลวง ไม่มีกฎหมายเรื่องการครอบครอง เพราะการครอบครองเป็นเรื่องของประชาชนการรถไฟจะได้กรรมสิทธิ์ที่ดินอะไรจะต้องได้มาตามพระราชกฤษฎีกา
รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการ ตนเองพ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เห็นว่ามีการแถลงข่าวมีนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการอะไรก็ไม่ทราบ ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับ และบอกว่าให้มีการเพิกถอนโฉนดต่าง ๆ ที่อยู่ในที่ดิน 995 แปลง 5,083 ไร่เศษ ที่บอกว่าจะถอนทันที จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นมีการเพิกถอน พร้อมย้ำว่า ขอให้กรมที่ดินดำเนินการไปตามกฎหมายต่อไป