“เพื่อไทย” ยันการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่รัฐบาล ชี้ สส.ภูมิใจไทย อยู่ในห้องประชุมกลับไม่แสดงตน หวังเล่นเกมการเมือง เตือนฝ่ายค้ำพรรคประชาชนกล่าวหาให้ถูกคน อย่าอุ้มรัฐบาลสีน้ำเงินจนเกินงาม
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย เผย กรณีสภาล่ม ระหว่างมีการพิจารณา พ.ร.บ.อากาศสะอาด และมีความพยายามเสนอญัตติกรณีถนนทรุดตัว ที่แยกวชิรพยาบาล ใกล้กับจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วง ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ช.การช่าง และบริษัทชิโนไทย ว่า พรรคเพื่อไทยขอชี้แจงต่อสาธารณชนอย่างชัดเจนว่า การกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยมีส่วนทำให้สภาล่มนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและไม่เป็นธรรมต่อพรรค เนื่องจากตามหลักการประชาธิปไตยและประเพณีปฏิบัติทางสภา ฝ่ายรัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพมีหน้าที่โดยตรงในการเป็นผู้รักษาองค์ประชุม หากรัฐบาลไม่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ ก็สะท้อนถึงที่มาอันผิดปกติจนมาเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และยังสะท้อนถึงความล้มเหลวในการจัดการเอกภาพภายในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ไม่อาจโทษฝ่ายค้านได้
พรรคเพื่อไทยขอให้สังคมอย่าหลงลืมว่า MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่ทั้งสองพรรคลงนามร่วมกันนั้น มีระบุไว้ชัดเจนว่าจะร่วมกันรักษาองค์ประชุมสภา เพื่อให้การทำงานเดินหน้าได้ แต่ในทางปฏิบัติกลับเป็นฝ่ายรัฐบาลเองที่ไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่ได้ลงนามไว้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการพยายามโยนความผิดให้ฝ่ายค้าน เป็นการบิดเบือนความจริง และเป็นการหนีความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล หากไม่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ ก็ควรยอมรับต่อประชาชนว่ารัฐบาลมีปัญหาภายใน และมีปัญหาต่อ MOA ไม่ใช่กล่าวหาเพื่อปกปิดความล้มเหลวของตนเอง
“พรรคเพื่อไทยขอย้ำว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ และรัฐบาลต้องเป็นผู้รักษาเสียงของตนเองในสภา หากยังไม่สามารถทำได้ ก็เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้มาอย่างฝืนธรรมชาติ ขาดความพร้อมและเอกภาพในการทำงานตั้งแต่ต้น” นายดนุพร กล่าว
นอกจากนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่าในเหตุการณ์ล่าสุด สส.พรรคภูมิใจไทยจำนวนหนึ่งแม้อยู่ในห้องประชุม แต่กลับไม่กดแสดงตน จนนำไปสู่การขาดองค์ประชุม สังคมจึงมีสิทธิที่จะตั้งคำถามว่าเป็นการเล่นเกมการเมือง เพื่อโยนความผิดให้ฝ่ายค้าน และพยายามเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องถนนยุบหรือไม่
นายดนุพร ยังเรียกร้องไปยังพรรคประชาชน ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้ำรัฐบาลว่า ควรกล่าวหาให้ถูกคน อย่าพยายามปกป้องหรืออุ้มพรรคภูมิใจไทยและรัฐบาลสีน้ำเงินจนเกินงาม และอย่าลืมว่าการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ โหวตกันเข้ามาด้วยเสียงข้างมากถึง 311 เสียง และขอให้พรรคประชาชน ระมัดระวังการกระทำและการสื่อสารในทำนองว่าเป็นผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเกินหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะทุกวันนี้สังคมก็มองพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้ำรัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งล่าสุดยังมีการสื่อสารในทำนองเลือก สส.บางพรรคได้นายกฯ อีกพรรค ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ประชาชนจนผู้คนจับสังเกตได้หมดแล้ว