"สุชาติ"​ ยังกั๊ก​ สังกัดภูมิใจไทย​ รับเป็นเรื่องยาก​ เหตุพื้นที่ทับซ้อนกัน

"สุชาติ"​ ยังกั๊ก​ ยกกลุ่มสังกัดภูมิใจไทยหรือไม่​ รับเป็นเรื่องยาก​ เหตุพื้นที่ทับซ้อนกัน  ลั่น​ ไปไหนไปกันยกกลุ่ม​ โว 4 เดือน​ ครม.อนุทิน​ สร้างผลงานถูกใจประชาชน​ 

นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ เผยถึงอนาคตทางการเมือง​ จะไปสังกัดพรรคที่มีอยู่แล้วหรือตั้งพรรคใหม่ ว่า​ วันนี้ตนตัวคนเดียวยังไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด แต่เพื่อนที่ยังสังกัดพรรคการเมืองเดิมอยู่ เราต้องมีมารยาท หากพูดออกไปเพื่อนทุกคนอาจไม่สบายใจ เพราะยังต้องลงพื้นที่อยู่ แต่ระยะเวลาอีก 4 เดือนข้างหน้าเราเชื่อว่า ถ้าตามที่เราตกลงกันไว้ ยังมีระยะเวลา ที่จะไปสังกัดพรรคการเมือง 30 วันอยู่แล้วอย่างไรก็ทัน พร้อมกับยังระบุว่าการที่มาร่วมรัฐบาล มาเป็นกำลังให้กับ​ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความตั้งใจและเลือกเฟ้นคนที่มีความเหมาะสม ให้นำพาประเทศไปสู่เป้าหมาย ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียม

ส่วนที่นักการเมืองอื่นๆมีความชัดเจนจะย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย​ แต่ในกลุ่มของนายสุชาติ จะมีความชัดเจนหรือไม่ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า​ เราคุยกันทุกวัน แต่สิ่งที่จะต้องกำหนดบทบาทเดินไปข้างหน้า สส.ทุกคนเสียสละอยู่สังกัดพรรคใดต้องดูว่า หากไปอยู่พรรคตรงนั้นจะทับซ้อนพื้นที่เขตของใคร ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ​ ขึ้นอยู่กับการเจรจากัน หากจะไปยังจุดที่ตั้งเป้าหมายไว้

เมื่อถามว่าสส.ในกลุ่มของนายสุชาติ​ มีทับซ้อนพื้นที่กับสส.พรรคภูมิใจ​ไทย​หรือไม่​ นายสุชาติ​ กล่าวว่า​ สส.ไม่ทับซ้อนกันอยู่แล้ว​ เพราะสส.​1 คนอยู่​ 1 เขต​  แต่บางจังหวะก็จะมีแกนนำ​ก็ต้องทำความเข้าใจ​  ถ้าเพื่อนของเรามาอยู่ด้วยแล้วจะติดขัดอะไรหรือไม่ หากติดขัดก็ต้องไปอีกทางออกหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเหมาะสมที่สุด

เมื่อถามว่าในอนาคตอาจจะรวมตัวกันเพื่อไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ใช่หรือไม่เพื่อไม่ให้เกิดการทับซ้อนกับพรรคภูมิใจไทย​ นายสุชาติ​ กล่าวว่า​ เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันในอนาคต เพราะพื้นที่ต้องยอมรับว่าสส.ในกลุ่มของตน​หากอยู่ในภูมิใจไทยก็ง่ายต่อการหาเสียง​ เพราะเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด ไม่ต้องขัดแย้งกัน แต่บางพื้นที่ก็มีบ้างในบางจังหวัด ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในการจัดสรรหาคน 

เมื่อถามว่าเหลือเวลาอีก 4 เดือนจำเป็นต้องเร่งประกาศให้ประชาชนทราบหรือไม่ว่าส.สของกลุ่มนายสุชาติที่อยู่สังกัดพรรคการเมืองใด นายสุชาติ​ ระบุว่า​ ไม่จำเป็น​ เพราะเชื่อว่าเมื่อมาร่วมรัฐบาล​ของนายอนุทิน​ ผลงานที่จะออกมาในระยะเวลา​ 4 เดือนสามารถจับต้องได้แน่นอน​ และต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองมาตลอด รู้ความต้องการของประชาชน รู้ระบบการบริหารประเทศ และบริหารพรรคการเมือง รวมไปถึงระบบกฎหมาย เป็นคนครบเครื่องอยู่แล้ว เชื่อว่าระยะเวลา 4 เดือนนายอนุทินสามารถทำงานได้ และกลุ่มที่ทำงานร่วมกับนายอนุทิน ก็จะมีผลงาน​ และเมื่อถึงเวลาตรงนั้นประชาชน จะเลือกตัวบุคคลเป็นหลัก ที่จับต้องได้และดูพรรคการเมืองที่เป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชน

เมื่อถามว่ากลุ่มของนายสุชาติจะไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดใช่หรือไม่ หรือจะแยกตามสถานการณ์ นายสุชาติ​ ระบุว่า น่าจะไปด้วยกันทั้งหมด เพราะอยู่ในฐานะพี่น้องร่วมกันมา และยอมรับว่าขณะนี้มีสส.สมาชิกในกลุ่มเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้มองเป้าหมายการเมืองว่าจะต้องมีมากหรือน้อย แต่มองว่าต้องเอาคนที่มีคุณภาพ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะเป็นการเปิดทางให้สสย้ายเข้ามาอยู่ในกลุ่มเพิ่มขึ้นใช่หรือไม่นายสุชาติระบุว่า แน่นอนเราเดินมาขนาดนี้ ก็เป็นไปได้อย่างที่สื่อมวลชนคิด ตนกลัวเรื่องคำพูดมาก เพราะหากพูดไปแล้วอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เกิดถึงเวลาแล้ว ไม่เป็นไปตามนั้นก็จะเสียคำพูด

ส่วนจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากตามที่ฝ่ายค้านมองหรือไม่ นายสุชาติ​ ระบุว่า​ คงไม่ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้ตกลงกันไว้ ต้องเป็นตามคำพูด นักการเมืองทุกคนหากไม่เป็นไปตามคำพูด ครั้งต่อไปก็ไม่รู้จะเดินไปเจอชาวบ้านอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้สำคัญที่สุด

ทั้งนี้นายสุชาติยังขอให้สื่อมวลชนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีและครม. เพราะนายกรัฐมนตรีจะนำโครงการในอดีตที่ดี เช่นโครงการคนละครึ่งกลับมา โดยไม่ได้ยึดติดว่าเป็นนโยบายของพรรคใด เพราะหากประชาชนได้ประโยชน์ก็จะพร้อมหยิบยกขึ้นมาทำ

อย่างไรก็ตามจ่าเอกยศสิงห์​ เหลี่ยมเลิศ​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลในเวลา 10.41 น.เป็นคนแรก และได้เข้าไปพักคอยยังห้องทำงานของนายสุชาติ

TAGS: #สุชาติชมกลิ่น #ภูมิใจไทย #กลุ่มชลบุรี #พื้นที่ทับซ้อน