"อุ๊งอิ๊งค์" โพสต์ไอจีสตอรี่คู่พ่อ "ทักษิณ" พร้อมข้อความสั้นสะเทือนใจ ขณะที่คนเสื้อแดงกว่า 50 ชีวิตรวมตัวกินข้าวเที่ยงหน้าเรือนจำคลองเปรม ท่ามกลางการดูแลเข้มของตำรวจ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาอัพไอจีสตอรีผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว "@ingshin21" โดย 'อุ๊งอิ๊งค์' ได้ออกมาโพสต์ภาพคู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นนักโทษติดคุกอยู่ขณะนี้ พร้อมข้อความว่า "คิดถึงมากๆ เลยนะ" พร้อมอีโมจิน้ำตาคลอ
"คนเสื้อแดง" ให้กำลังใจทำกิจกรรม "กินข้าวหน้าเรือนจำคลองเปรม"
ตั้งแต่เวลา 10.00-12.00 น. ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม กทม. กลุ่มคนเสื้อแดง ประมาณ 50 คน นำโดย นายเทวินทร์ พูลทวี นางประนอม พูลทวี นายภัทรพล หรือ ไก่ บิ๊กแมน ธนเดชพรเลิศ พร้อมด้วย กลุ่มคนเสื้อแดงปากช่องโคราช กลุ่มคนเสื้อแดงราชบุรี เดินทางมาจัดกิจกรรม "กินข้าวเที่ยงพร้อมทักษิณ" ขณะที่ถูกคุมขังเรือนจำกลางคลองเปรม เข้าสู่วันที่ 4
โดยบรรยากาศกลุ่มคนเสื้อแดงได้ปักหลักบริเวณฟุตปาธ หน้าเรือนจำพร้อมด้วยรถเครื่องเสียง โดยนางประนอม พูลทวี และแกนนำเสื้อแดง นำข้าวหมกไก่ ข้าวเหนียวมะม่วง น้ำดื่ม กล้วยทอด ข้าวโพดต้ม มาแจกให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับประทานเป็นอาหารเที่ยงพร้อมกับอดีตนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ในเวลา 10.13 น. เกิดเหตุชุลมุนเนื่องจากมีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-30 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้าย เข้าบริเวณพื้นที่ชุมนุมและมาพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมและเกิดมีปากเสียงกันทำให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน. ประชาชื่น ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเชิญชายวัยรุ่นดังกล่าว ไปสถานีตำรวจ เพื่อตรวจค้นและสอบปากคำ ต่อมาเหตุการณ์ปกติ
"กรมราชทัณฑ์" ปรับอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรมคืนพื้นที่เพิ่ม รองรับผู้ต้องขังจำนวนมาก
กรมราชทัณฑ์ ได้ประกาศปรับอาณาเขต เรือนจำกลางคลองเปรม คืนพื้นที่จำนวน 6 ไร่ 1 งาน ให้กลับมาสู่การครอบครองดูแลของเรือนจำตามเดิม หลังจากพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกใช้โดย ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อรองรับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ปัจจุบันเรือนจำกลางคลองเปรมมีผู้ต้องขังจำนวนมาก รวมถึงผู้ต้องขังพิการ 42 คน ผู้ต้องขังอายุ 60 ปีขึ้นไป 385 คน และผู้ต้องขังที่ต้องพึ่งพิงอีก 22 คน อีกทั้งยังรับผู้ต้องขังที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจจากเรือนจำและทัณฑสถานอื่น ทำให้พื้นที่มีความแออัดสูง
การคืนพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้การ ควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมตามมาตรฐานที่กำหนด
ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนอาณาเขตเรือนจำเป็นแนวทางที่กรมราชทัณฑ์ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการบริหารจัดการเรือนจำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยในปีงบประมาณ 2567 มีการประกาศกำหนดอาณาเขตเรือนจำ 16 แห่ง เช่น เรือนจำกลางเชียงราย เพชรบุรี และภูเก็ต ส่วนปีงบประมาณ 2568 ถึงปัจจุบัน มีการประกาศอาณาเขตอีก 7 แห่ง เช่น เรือนจำชั่วคราวเขาสมอแคลง พัทยา และคลองเปรม
กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าการปรับอาณาเขตดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการ จัดการผู้ต้องขังจำนวนมาก ให้เป็นไปตามผลการจำแนกประเภท และเพื่อให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังด้านต่าง ๆ มีมาตรฐานและเหมาะสมต่อไป