ศาลฎีกายกคำร้อง "ชาญชัย" ห้าม "ทักษิณ" ออกนอกประเทศ ชี้ไม่มีสถานะผู้เสียหายจึงไร้สิทธิ์ยื่นขอ คึกคักสื่อมวลชนเฝ้าติดตามคดีบังคับโทษ "อดีตนายกฯ" 9 ก.ย. ใช้ตำรวจและ คฝ.กว่า 100 นาย ดูแลความเรียบร้อย
บรรยากาศที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันนี้(8ก.ย.) มีสื่อมารอทำข่าว เนื่องจากได้เศาลนัดฟังคำสั่ง กรณีที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งห้ามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกราชอาณาจักร กรณีการบังคับโทษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2568 ซึ่งเป็นวันที่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 พอดี
นายชาญชัย เปิดเผยภายหลังเข้ารับฟังคำสั่งศาลว่า ศาลมีคำสั่งว่า ตนไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจึงไม่มีสิทธิ์ร้องขอให้จำเลย(นายทักษิณ )ห้ามออกนอกประเทศศาลถึงยกคำร้องซึ่งอันนี้ก็ถือว่าเป็นอำนาจของศาล ซึ่งศาลได้ยกคำร้อง ส่วนการจะดำเนินการอย่างไรก็เป็นอำนาจ และดุลพินิจของศาล
ศาลฎีกาเข้มใช้ตำรวจ 100 นาย ดูแลจัดระเบียบรองรับอ่านคำสั่งพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลฎีกา สนามหลวง พบว่า บริเวณด้านหลังอาคารศาล ริมคลองหลอดวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ของศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้ร่วมกันวางแผนและกำหนดแนวพื้นที่เพื่อรักษาความเรียบร้อย รองรับการอ่านคำสั่งบังคับโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ วันที่ 9 กันยายน ของศาลฎีกาซึ่งออกหมายเรียก นายทักษิณ ให้เดินทางมาฟังคำสั่งศาล
เบื้องต้นทางศาลใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เเละเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.)ประมาณ 100 นาย รวมทั้งได้กำหนดพื้นที่ โดยจะอนุญาตให้เฉพาะสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนจำนวนไว้กับศาลฎีกาเท่านั้นที่สามารถเข้าฟังเเละสามารถนำรถทีมข่าวมาจอดบริเวณด้านหลังอาคารศาลฎีกา ริมคลองหลอดได้
สำหรับสื่อมวลชนที่ไม่ได้ขออนุญาตเข้ารายงานข่าวรวมทั้งกลุ่มมวลชนที่จะมาให้กำลังใจนายทักษิณ ให้รวมตัวกันที่บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม เชิงสะพานผ่านพิภพลีลา โดยจะมีเเผงเหล็กกั้นไว้ เพื่อเป็นการจัดระเบียบและควบคุมพื้นที่บริเวณโดยรอบศาลฎีกา
สำหรับรถของคู่ความในคดีศาลจะอนุญาตให้เข้าทางประตูด้านหลังอาคารศาลฎีกา ฝั่งคลองหลอด เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย