สภาฯ ลงมติ 198 เสียง เห็นชอบ ‘อภิปรายลับ’ วาระญัตติด่วนฝ่ายค้าน พิจารณา MOU 43-44 ชี้ละเอียดอ่อน เป็นเรื่องความมั่นคงประเทศ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 17 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ 44 เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา รวมถึง ส.ส. คนอื่นๆ

ด้าน นายวัชระพล ขาวขำ ส.ส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เนื่องจากวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านได้มีการประสานงานกันเรียบร้อยแล้ว ทางรัฐบาลไม่ขัดข้องในการเสนอญัตติด่วนนี้ มองเห็นว่า เป็นประโยชน์ที่ทุกคนจะมาคุยกันในสภา แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากญัตตินี้มีความละเอียดอ่อน และเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงขออาศัยตามข้อบังคับที่ 18 ให้การประชุมนี้เป็นการประชุมลับ
 
จากนั้น น.ส. แนน บุณย์ธิดา ในฐานะที่เป็นผู้เสนอญัตติ ที่มีการอ้างว่ามีการตกลงแล้วระหว่างวิปรัฐบาลและยึดฝ่ายค้าน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ของสัปดาห์นี้ เราไม่ได้มีการคุยกันในเรื่องนี้ เพราะตนเองได้ประสานกับเลขาวิปฝ่ายรัฐบาล ว่าวันนี้เราจะมีการ จะมีการพิจารณาญัตติ MOU 43 และ 44 และไม่มีการคุยประเด็นอื่นๆ หลังจากนี้ เพราะฉะนั้นถ้าจะมีการอ้างว่าคุยกันแล้ว ไม่มี ไม่ว่าจะเป็นการประชุมลับหรืออะไรก็ตามแต่ เป็นการพูดคุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การทำข้อตกลงทุกอย่างท่านคว่ำไปเอง ถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้เราคุยกันในเรื่องการพิจารณาญัตติ และขณะนี้มีผู้เสนอญัตติ 4 คน มั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นความลับ MOU 43 และ 44 มีมาทั้งหมด 25 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นการพิจารณาเป็นประชุมลับตนเองไม่เห็นด้วย

ด้านนายวัชระพล กล่าวว่า ขออภัยฝ่ายค้าน อาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ขอแก้ไขคำพูดตนเองว่า รัฐบาลไม่ขัดข้องในการเสนอญัตติ ไม่ได้ประสานกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลในสัปดาห์นี้ จริงอยู่ว่าเป็นการประสานงานในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ขอยืนยันว่าขอให้เป็นการประชุมลับเช่นเดิม เพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น 

ด้าน นายไชยา พรหมมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ระบุว่า ตนเองไม่ขัดข้อง อยากจะทำความเข้าใจกับสมาชิกทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เป็นความผิดพลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเองยอมรับว่า ในฐานะที่เป็นประธานทำหน้าที่ในการประชุม โดยไม่ได้ทราบข้อตกลงของการคุยกันระหว่าง ทั้งสองฝ่าย ดังนั้น การปิดประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่ดีสำหรับสภาของพวกเรา โดยเฉพาะการถกปัญหาสำคัญของบ้านเมือง ต้องยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดในการประสานงานจริงๆ แล้วตนอยากจะเห็นสมาชิกทั้งสองฝ่าย เรามีสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นเวที ในการที่จะถกปัญหาของบ้านเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก และตนก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ ประธานในที่ประชุมและให้ความร่วมมือกับสมาชิกทุกฝ่าย แต่ขอให้เป็นมติและข้อตกลงกันทั้งสองฝ่าย หาข้อยุติให้ได้ประธานพร้อมให้ความร่วมมือ

ท้ายสุดที่ประชุมสภาฯ ได้ลงมติเห็นชอบตามที่สมาชิกร้องขอให้ดำเนินการประชุมลับด้วยคะแนนเสียง 198 เสียง ถือว่ามีสมาชิกลงชื่อแสดงความประสงค์ให้ดำเนินการประชุม จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของสมาชิก หรือ 123 เสียง ซึ่งที่ประชุมได้ตกลงว่า ในช่วงที่เสนอญัตติจะเป็นการประชุมตามปกติ และจะดำเนินการประชุมลับในช่วงที่สมาชิกอภิปราย ซึ่งต้องให้บุคคลภายนอกออกจากห้องประชุมด้วย