"จักรภพ" รับถูกทาบคัมแบ็กโฆษกรัฐบาล ยันคดีเก่าเคลียร์หมด ไม่หวั่นถูกมองเป็นสายล่อฟ้า

อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับมีผู้ทาบทามกลับมานั่งตำแหน่งโฆษกอีกครั้ง ย้ำชัดคดีความในอดีตปิดฉากหมดแล้ว พร้อมขอทำหน้าที่สื่อสารเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตโฆษกรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการเตรียมเสนอชื่อให้กลับมารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยยอมรับว่ามีการติดต่อทาบทามจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจร่วมกับครอบครัวและคนใกล้ชิดว่าจะกลับมาสู่สนามการเมืองหรือไม่ แต่โดยส่วนตัว “ใจอยู่กับการเมืองอยู่แล้ว” เพราะเชื่อว่าประเทศชาติละทิ้งไม่ได้ ไม่ว่าจะทำงานในนามพรรคหรือส่วนตัวก็ตาม

นายจักรภพกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กรอกประวัติในรูปแบบคณะรัฐมนตรีตามที่มีกระแสข่าว แต่ยอมรับว่ามีการติดต่อสอบถามประวัติคดีความในอดีต ทั้งคดีการเมืองและคดีอื่นๆ ซึ่งได้ชี้แจงและส่งเอกสารยืนยันไปแล้ว ย้ำว่าขณะนี้ไม่มีคดีค้างคาใดๆ พร้อมยืนยันว่ามีหนังสือราชการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานอัยการสูงสุดรับรองว่าเรื่องทั้งหมดสิ้นสุดแล้ว

“ผมรู้สึกดีใจที่มีกระแสข่าวนี้ เพราะตั้งแต่กลับมาเมืองไทย ก็พยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือเรื่องอื่น เพียงแต่ผมชอบการเมืองและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงมีแนวโน้มจะกลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้ง ส่วนจะได้ทำประโยชน์แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสังคมจะตัดสิน” นายจักรภพกล่าว

เมื่อถามถึงกระแสที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกำลังเผชิญวิกฤตความนิยมตกต่ำ และต้องการคนมาช่วยฟื้นความเชื่อมั่นด้านการสื่อสาร นายจักรภพยอมรับว่า ความเสื่อมศรัทธาเกิดขึ้นจริง และรัฐบาลต้องใช้ความพยายามอย่างสูงในการพิสูจน์ตัวเอง เขาพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับประชาชน

นายจักรภพกล่าวว่า หากกลับมาทำหน้าที่ จะเน้นปรับปรุงการสื่อสารของรัฐบาลใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

ปริมาณข่าวสารจากรัฐบาล ที่ปัจจุบันเผยแพร่น้อยเกินไป ทั้งที่มติคณะรัฐมนตรีมีหลายสิบเรื่อง แต่ประชาชนกลับรับรู้เพียงไม่กี่เรื่อง ทำให้ขาดข้อมูลนโยบายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

การแสดงความเข้าใจต่อปัญหาประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และภาระค่าครองชีพสูง รัฐบาลต้องสื่อสารให้ชัดว่าพร้อมยืนอยู่เคียงข้างประชาชน

การต่างประเทศ ที่ต้องขยายความร่วมมือกับสื่อต่างประเทศ เพื่อชี้แจงข้อมูลกรณีความเข้าใจผิด เช่น ผลกระทบจากปัญหาการท่องเที่ยวจีนที่ซบเซาจนธุรกิจเดือดร้อน

สำหรับข้อกังวลว่าจะกลายเป็น “สายล่อฟ้า” ให้รัฐบาลเหมือนในอดีต นายจักรภพกล่าวว่า ครั้งก่อนในรัฐบาลไทยรักไทย เขาก็เคยถูกโจมตีมาแล้ว แต่ครั้งนี้จะพยายามลดบทบาทส่วนตัว เน้นสื่อสารข้อมูลข้อเท็จจริง โดยมีทีมผู้ช่วยโฆษกและเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานมาร่วมชี้แจง ไม่ใช่พึ่งโฆษกคนเดียว

เมื่อถูกถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชักชวนโดยตรงหรือไม่ นายจักรภพยอมรับว่า นายทักษิณเป็นหนึ่งในผู้พูดคุยเรื่องนี้ด้วย เพราะรู้จักกันมายาวนานตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย และมีความใกล้ชิดในช่วงที่ตนเองถูกคดีความเล่นงานหนัก แต่ย้ำว่ามีคนอื่นๆ ร่วมทาบทามเช่นกัน พร้อมระบุว่า ตนเคยมีส่วนร่วมผลักดันนโยบายหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ไม่อยากเห็นผลงานเหล่านั้นถูกลบเลือนเพียงเพราะความต่างรุ่น

“ผมยังเชื่อว่าหากมีโอกาส ก็อยากช่วยงานต่อไปในแบบที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ที่สุด” นายจักรภพกล่าว

TAGS: #จักรภพ #โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี #สายล่อฟ้า #ทักษิณ