"แรมโบ้"ร้อง “นายกฯ” ปรับ "พีระพันธุ์" ออก ระวังซ้ำรอย"เศรษฐา"

"แรมโบ้ เสกสกล" ร้อง “นายกฯ” ปรับ "พีระพันธุ์" ออกจากตำแหน่ง หลังพบขาดคุณสมบัติต้องห้าม หากฝืนต่อ อาจซ้ำรอย อดีตนายกฯ เศรษฐา

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้ปรับ นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกจากตำแหน่ง เพราะการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องไม่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะเสนอรายชื่อรัฐมนตรีในการทูลเกล้าฯ เพื่อทรงแต่งตั้ง และในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หากทราบว่า มีคุณสมบัติต้องห้าม ทำให้สมาชิกภาพความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะราย โดยอยู่ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้ตรวจการแผ่นดินไต่สวน รวมถึงให้อัยการสูงสุดพิจารณาตรวจสอบ แม้ยังไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม 

แต่กรณี นายพีระพันธุ์ มีลักษณะต้องห้าม ทั้งการทุจริตแจกถุงยังชีพ คดีซุกหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท พร้อมยังแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิด มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ ถือเป็นการละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันเป็นการกระทำชัดแจ้ง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 

จากข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงข้างต้น ซึ่งตนเองได้ตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว จึงขอแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วน และปรับนายพีระพันธุ์ออกจากตำแหน่ง แต่ถ้ายังเพิกเฉย ปล่อยให้นายพีระพันธุ์ดำรงตำแหน่งต่อไป ผลร้ายจะกลับไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว กรณีของ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่กระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 

นายเสกสกล ยังกล่าวถึงปัญหาภายในพรรครวมไทยสร้างชาติว่า นายพีระพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค พยายามใช้อำนาจครอบงำพรรค เรื่องนี้ตนเองเคยคุยกับ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ว่า เหตุใดหัวหน้าพรรคไม่ฟังใครเลย และพยายามโหนกระแส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังนั้น ตนเองในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค จึงเชียร์ให้นายเอกนัฏเป็นหัวหน้าพรรคแทน อีกทั้งปัญหาล่าสุดที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะถอนหรือไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล จากปมคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีคุยกับ สมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งผลปรากฏว่า มีเพียงนายวิทยา แก้วภราดัย และนายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค ที่ออกมาให้ข้อมูลผลประชุมแทน โดยบอกว่า ให้นายพีระพันธุ์ไปคุยกับนายกรัฐมนตรีว่า ต้องลาออก แล้วจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป แต่สุดท้ายโฆษกพรรคยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่มติพรรค และให้อำนาจนายพีระพันธุ์ดำเนินการคนเดียว จึงไม่แน่ใจว่า อะไรคือเรื่องจริง แต่ทำให้พรรคเสียหายไปแล้ว

TAGS: #แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี #เศรษฐา #แรมโบ้ #ปรับครม #พีระพันธุ์ #รทสช #รวมไทยสร้างชาติ #เสกสกล