"วราวุธ" นั่งหัวโต๊ะ ประชุม ชทพ. ถกเครียดเกือบ 2 ชม. ยังไม่ถอนตัวรัฐบาล! หวังให้รบ.เข้มแข็งปกป้องอธิปไตยก่อน แต่มอบหน.พรรคไปคุยนายกฯ ฟังรายละเอียดเรื่องคลิปเสียงก่อนหาข้อสรุปอีกครั้ง   

เวลา 16.45 น.  ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ.  เดินทางมาเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค สส. และคณะกรรมการดำเนินการของพรรค ชทพ. เพื่อพิจารณาวาระพิเศษ โดยมี สส.ของพรรคทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย 1.นายวราวุธ สส.บัญชีรายชื่อ 2.นายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี 1 3.นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรีเขต 2 4.นายนพดล มาตรศรี สส.สุพรรณบุรี เขต 3 5.นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สส.สุพรรณบุรี เขต 4  6.นายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี เขต 5  7.นายศุภโชค ศรีสุขจร สส.นครปฐมเขต 1 8.นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐมเขต 3 9.นายอนุชา สะสมทรัพย์ สส.นครปฐมเขต 5 และ10.นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สส.ร้อยเอ็ด เขต 1 เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยใช้เวลาประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง

 จากนั้นเวลา 18.20 น. นายวราวุธ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอที่หลากหลายพอสมควร แต่ทุกคนมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อีกทั้งทางหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้พรรค ชทพ. เชื่อว่า อธิปไตยและความมั่นคงของประเทศไทยคือ สิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น เราไม่ควรที่จะตกอยู่ในสภาวะสุมเสี่ยง สมาชิกพรรคเห็นว่า เราควรจะสนับสนุนให้สร้างความมั่นคงและให้รัฐบาลสามารถสร้างความมั่นคงทางอธิปไตยให้กับประเทศไทย เนื่องจากเราไม่อยากให้ความสุ่มเสี่ยงเกิดขึ้นเกี่ยวกับอธิปไตยของประเทศในขณะนี้
 
 นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรคได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีแนวทางอย่างไร เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้วครบถ้วนแล้ว จะนำมาเสนอให้กับที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคต่อไป ย้ำว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดขณะนี้คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ตะเข็บชายแดน อธิปไตยของประเทศคือสิ่งที่สำคัญวามเข้มแข็งของรัฐบาลจะสร้างความเข้มแข็งให้กับอธิปไตย  ดังนั้น จึงขอไปคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะข้อมูลที่มีอยู่ในมือยังไม่ครบถ้วนว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง เราได้ยินคลิปพูดคุยสนทนา วัตถุประสงค์ของการที่ปล่อยคลิปนี้ออกมา เราไม่รู้จริงๆว่า เกิดอะไรขึ้น และยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เมื่อวันที่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ และยังไม่มีหัวหน้าพรรคท่านใดได้มีโอกาสนั่งคุยกันในนายกรัฐมนตรี จึงอยากให้ได้ข้อมูลให้ครบถ้วนเสียก่อนจึงมาพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
 
 เมื่อถามถึงเหตุผลที่บอกว่า จะสนับสนุนความมั่นคงของประเทศและรัฐบาล หมายความว่าจะร่วมรัฐบาลต่อใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้ข้อมูลที่มีอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดก็ตาม แต่ในโลกโซเชียลอาจจะบอกว่าชัดขนาดนี้แล้วต้องตัดสินใจ แต่อธิปไตยและความความมั่นคงของประเทศเป็นหัวใจสำคัญ เราจะเอามาเสี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ถ้าเราสามารถทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งได้ในขณะนี้ ในช่วงที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ พรรค ชทพ.ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนการทำงานก่อน แต่พอทราบรายละเอียดแล้วว่าเป็นอย่างไรก็จะนำมาเสนอให้ทางกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคมาพูดคุยกันต่อไปว่า แนวทางของพรรคจะเป็นอย่างไร

 เมื่อถามว่า สิ่งที่จะทำให้พรรคไม่ร่วมรัฐบาลคืออะไร นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องไปคุยกันก่อน เพราะแนวทางของพรรค ชทพ.ชัดเจนตั้งแต่ตั้งรัฐบาลชุดนี้แล้ว หรือตั้งแต่ผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 ออกมา วันนั้นพรรค ชทพ.ก็เป็นพรรคแรกที่พูดถึงจุดยืนที่ชัดเจนของเรา และขณะนั้นก็ได้มีการฟอร์มรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน จนมาถึงนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เราก็ยังยึดมั่นในจุดยืนที่ได้ให้ไว้

 เมื่อถามย้ำว่า สรุปวันนี้คือ พรรค ชทพ. ยังไม่ถอน ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ถอน และจะขอไปพูดคุยก่อนว่า แนวทางการทำงานจะเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ได้มีการนัดวันหารือกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า แต่ขณะนี้ยังไม่ได้นัด เนื่องจากเพิ่งพูดคุยกับสมาชิกพรรค  เมื่อถามอีกว่า จะใช้เวลาพูดคุยกันมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหา แต่เชื่อว่า ก็ควรจะมีการพูดคุยกันโดยเร็ว 
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยังมีภาพจับมือกับนายกรัฐมนตรีออกมา อาจจะถูกตราหน้าได้  นายวราวุธ กล่าวว่า  ตนคิดความเข้มแข็งของรัฐบาลจะสะท้อนให้เห็นการทำงานของพรรคร่วม ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันว่า แต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นอย่างไร และเท่าที่ทราบขณะนี้ก็มีหลายพรรคร่วมรัฐบาลที่กำลังประชุมอยู่ด้วยเช่นกัน

 เมื่อถามว่าได้ยินคลิปเสียงแล้ว รู้สึกกังวลใจบ้างหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า จากการที่ฟังเป็นการพูดคุยกัน ระหว่างบุคคล 2 คน ที่ฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่า เป็นการพูดคุยระหว่างอาหลาน แต่ที่สำคัญคือ การที่คลิปนี้ออกมา ตนก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าจุดประสงค์ของการปล่อยคลิปนี้มาคืออะไร แต่ก่อให้เกิดความวุ่นวายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความมั่นคงของอธิปไตยของประเทศเราที่อยู่ตามตะเข็บชายแดน