"อนุทิน" ประกาศหากยึดมหาดไทย "ภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน" นายกฯรู้ดีไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก พร้อมเผยบทสนทนาบนตึกไทยคู่ฟ้า รายงานปมโดนหมายเรียกคดีฮั้ว สว.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผยผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailandถึงกระแสข่าว ปรับครม. หากถูกยึดคืน กระทรวงมหาดไทย พรรคภูมิใจไทย พร้อมถอนตัวร่วมรัฐบาล
นายอนุทิน ยืนยันว่า การพูดคุยระหว่างตนและนายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้าเมื่อวันที่16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องปรับครม. เพราะตามที่ตนให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ถ้าอยู่กระทรวงมหาดไทยไม่ได้พรรคภูมิใจไทยเราก็ต้องพร้อมถอยไปเป็นฝ่ายค้าน มาถึงจุดนี้มันปรับเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว พรรคภูมิใจไทยก็ถือข้อตกลงที่เรามีไว้ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคว่าเราจะกำกับรับผิดชอบดูแล 4 กระทรวงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของนายกกับตัวรัฐมนตรีแต่เป็นเรื่องของพรรคกับพรรค
ถามย้ำว่า สถานการณ์ก็เลยเถิดไปพอสมควรมาถึงจุดที่ภูมิใจไทยถอยไม่ได้แล้ว ถ้าจะให้ถอยจากมหาดไทยก็คงจะต้องถอยจากรัฐบาลตรงนี้ชัดเจนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า"ชัดเจนครับ ยังยืนยันแนวทางส่วนนี้"
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า นายกรัฐมนตรี จะขอนำเรื่องนี้ไปปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่1-2 วัน เดี๋ยวจะกลับมาคุยกันอีกทียืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดคำนี้กับตน แต่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงดูท่าทางกันแล้วคิดว่าอย่าพูดเรื่องนี้ดีกว่า
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงบทสนทนา ที่มีการพูดคุยกับนายกฯว่า เป็นการพูดคุยถึงเรื่องงานเป็นหลัก การทำงานและมีการรายงานถึงกรณีที่ตนรวมถึงกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย โดนหมายเรียกในคดีโพยฮั้วสว. ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบ้างในส่วนของตนนายกฯก็รับทราบและแสดงความเป็นห่วงตนรวมถึง นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะที่คุยมีนายกรัฐมนตรีและนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีอยู่ในนั้นด้วยอย่างที่ตนบอกพอมีเรื่องอื่นมันก็เอี้ยวไปเบี่ยงไป คอนเทนต์ของการพูดคุยก็เปลี่ยนไปท่านนายกฯก็ทราบอยู่แล้วว่าจุดยืนของพวกตนเป็นอย่างไร
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า หากถามว่ากังวลหรือไม่ก็ยอมรับว่ากังวลใครโดนหมายเรียกมาก็กังวลทั้งนั้น แต่เราก็ต้องมั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรที่เป็นไปตามหมายเรียกซึ่งเป็นหมายก๊อปปี้เพลสเหมือนกันหมด ข้อความเดียวกัน แค่เปลี่ยนชื่อ บางชื่อซองชื่อหนึ่งข้างในอีกชื่อหนึ่งก็มี ไม่มีการบ่งชี้ว่าทำอะไรผิดในเวลาไหนที่ใดกับใคร แต่ไม่เป็นไรเวลาไปชี้แจงก็จะต้องมีการถามว่าที่กล่าวหามาต้องมีคู่กรณี
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวในพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวแต่แกนนำบางคนมีความรู้สึกว่าไม่อยากถอนตัวอยากให้รับสภาพไปก่อน เช่นนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี นายอนุทิน ถามกลับว่า"ใครครับ ตบมือกันทั้งพรรคยืนยันว่าไม่มี ผมได้แมนเดท(คำสั่ง)มาจากพรรคซึ่งก็พอจะทราบอยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะเจรจากี่ครั้ง พอไปเจรจาพรรคก็ให้ผมเสนอ ผมก็พูดถึงแนวทางที่ว่าถ้าเกิดวันหนึ่งมีการร้องขอมาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเอากระทรวงมหาดไทยกลับไป ผมก็ขอเป็นอย่างนี้นะ เป็นนายชาดาที่บอกว่าขอตบมือก่อนอย่าเพิ่งพูดต่อ"