รองโฆษกพรรค เผยเพื่อไทย หนุนเจรจา JBC ต่อจนกว่าจะได้ข้อยุติ ลั่นไม่ยอมรับอำนาจศาลระหว่างประเทศ มั่นใจ “นายกฯ” ใช้ดุลพินิจปรับ ครม.อย่างรอบคอบ ย้ำไม่จำเป็นต้องทำประชามติ พ.ร.บ.สถานบันเทิง
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (Joint Boundary Commission – JBC) วานนี้ว่า แม้การประชุม JBC ครั้งล่าสุด ยังไม่สามารถนำไปสู่ข้อยุติถาวรได้ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีของทั้งสองฝ่าย ที่พร้อมใช้เวทีในการเจรจาแทนการใช้ความรุนแรง
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้สนับสนุนกระบวนการ JBC อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเวทีทางการฑูตที่ปลอดภัยที่สุดในการแก้ไขปัญหาชายแดน และหวังว่าความพยายามนี้จะนำไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ให้กลับมาเหมือนปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์มีเสถียรภาพ และรัฐบาลไทยได้เตรียมการไว้ทุกด้านล่วงหน้า เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคง ด้านพลังงานและระบบเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยสนับสนุนแนวทางรัฐบาลที่อดทน ไม่ตอบโต้ และยึดมั่นในการเจรจาแบบทวิภาคี และขอย้ำจุดยืนว่าเราไม่ยอมรับการใช้เขตอำนาจศาลระหว่างประเทศมาตัดสินปัญหาเขตแดนของชาติไทย กระบวนการศาลระหว่างประเทศจะไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้หากไม่ได้รับการยินยอมจากประเทศไทยเสียก่อน
ส่วนกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายพายุ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่านายกรัฐมนตรี จะใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบ เพื่อจัดวางบุคลากรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักสูงสุด ไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นพรรคการเมืองใด แต่รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็ยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนให้เกิดความกินดีอยู่ดีทั้งนี้นักการเมืองทุกคนควรพร้อมรับบทบาทใหม่ และเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันนโยบายที่ประชาชนรอคอยอยู่ ซึ่งเป็นแกนหลักของพรรคเพื่อไทยและของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
รองฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ทำประชามติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ว่า พรรคเพื่อไทยขอชี้แจงรายละเอียด 2 ข้อดังนี้
1.กฎหมายประชามติฉบับที่อยู่ในชั้นสภายังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ส่วนร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ปัจจุบันอยู่ในลำดับที่ 1 ของวาระการประชุมที่จะเปิดสมัยการประชุมในวันที่ 3 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้
2.ที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ทั้งในสภาและเวทีสาธารณะ หากร่างดังกล่าวผ่านวาระการประชุมแรก การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) จะเปิดให้มีเวทีรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม
พรรคเพื่อไทยขอเน้นย้ำว่า พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เป็นเรื่องนโยบาย ไม่ใช่เรื่องความมั่นคงของชาติ ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ เนื่องจากเรามีตัวอย่างของการอนุญาตกิจกรรมที่ภาครัฐควบคุมอยู่แล้ว อาทิ สนามม้า, สนามมวย, สลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น ถือเป็นกิจกรรมในลักษณะทำนองเดียวกัน
“ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังในการขับเคลื่อนนโยบายและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และเราจะไม่ตอบโต้ด้วยความขัดแย้ง แต่จะตอบโต้ด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรม จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างจริงจัง” นายพายุ กล่าว
