อยากแก้ปัญหาประชาชน ก็ต้องฟังเสียงประชาชน “นักวิชาการ” แนะ อ่านโพล ก่อนปรับ ครม. ชีั สะท้อนความต้องการของประชาชนที่สุด
จากกรณีมหิดลโพลเผยแพร่ผลการสำรวจในประเด็นเรื่องของการปรับ ครม. ซึ่งมีอยู่ 5 กระทรวงที่อยู่ในข่าย ความต้องการของประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ล่าสุดรองศาสตราจารย์ ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพากล่าวว่า
ในกระแสข่าวว่ามีความต้องการจากพรรคเพื่อไทยในการปรับ ครม.ขอแนะนำว่าหากต้องการทำเพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงก็ให้นำโพลล่าสุดไปประเมิน เพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง โพลที่ออกมาเป็นตัวช่วยชั้นเลิศ รัฐบาลไม่ต้องทำอะไรแล้ว แค่ฟังเสียงประชาชนและอ่านโพลให้เป็นเท่านั้น
ถ้าจะปรับ ครม. ก็ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนไม่ใช่ปรับ เพื่อตอบสนองทางการเมือง เล่นเกมอำนาจโดยไม่เห็นหัวพี่น้องคนไทย อย่าใช้โอกาสในการปรับ ครม. เพื่อสนอง ผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งในเรื่องของการเลือกตั้งและในเรื่องของนโยบายคาสิโน เราทุกคนรู้ว่าความต้องการที่จะฮุบกระทรวงมหาดไทยนั้นเป็นไปเพื่ออะไรแต่ถามว่าประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหนหากทำสำเร็จแล้วทั้งที่กระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่ในกลุ่ม กระทรวงที่สมควรต้องถูกปรับเปลี่ยนเสียด้วยซ้ำ
หากจะปรับ ครม.ก็ต้องใช้โอกาสนี้ทำไปเพื่อพี่น้องประชาชน ผลโพลที่ออกมาบอกปัญหาของรัฐบาลไปหมดแล้วว่ากระทรวงไหนต้องรีบแก้ไข อย่างกระทรวงกลาโหม แทบทุกคนฟันธงตรงกันว่าขณะนี้ยังเดินตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเห็นว่าราคาพืชผลตกต่ำ
กระทรวงการคลังก็ไม่มีผลงานที่ชัดเจน เช่นเดียวกับกระทรวง พม. สำหรับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ต้องยอมรับว่าล้มเหลว ไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวประเทศไทยได้ทั้งๆที่เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวสำคัญ
สถานการณ์ข้าวยากหมากแพงและปัญหาชายแดนในตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับกระทรวงที่อยู่ในข่ายซึ่งประชาชนต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด จำเป็นแล้วที่ผู้มีอำนาจจะต้องฟังเสียงประชาชน และเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องคนไทย อย่าเล่นการเมืองจนทั้งประเทศต้องเสียผลประโยชน์