"เสธหิ" โต้ "สุชาติ" จะย้ายพรรคต้องมีมารยาท ด้าน 2 ส.ส.รวมไทยสร้างชาติ "จิรวุฒิ -ธนกร" แจง ร่วมอยู่ในเฟรม แค่ไปงานสังสรรค์ ไม่ได้คิดย้ายพรรค
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า จากภาพข่าว การร่วมรับประทานอาหารของ ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวนหนึ่ง นำโดยท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีการแถลงข่าวตามสื่อต่างๆในโอกาสต่อมา ว่าเป็นการพูดคุยหาความชัดเจน ในแนวทาง ทางการเมืองของกลุ่ม ส.ส. ดังกล่าว ซึ่งท่านสุชาติฯ พูดไว้ในหลายประเด็น ผมในฐานะผู้น้อยขออนุญาตกราบเรียนท่านในฐานะรองหัวหน้าพรรค และเป็นผู้ใหญ่ของพรรค ดังนี้ครับ
1. แนวทางการทำงานและอุดมการณ์ของพรรค ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ยังมุ่งเน้นในเรื่องการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะจากการทำงานดังกล่าวมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ การดูแลราคาน้ำมันให้มีเหตุผลมากขึ้น การปรับลดค่าไฟฟ้า ทำให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนในภาพรวมได้ประมาณ 275,000,000,000 บาท (สองแสนเจ็ดหมื่นห้าพันล้านบาท) การเดินหน้าปลดล็อคโซลาร์เซลล์และแสวงหาอุปกรณ์ราคาถูกสำหรับประชาชน การเดินหน้าร่างกฎหมายพลังงานเพื่อความมั่นคงในราคายุติธรรม การดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การกำกับดูแลของท่าน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ในเรื่องมาตราฐานสินค้าอุตสาหกรรมตลอดจนการตรวจสอบมลพิษและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีภัยพิบัติและอยู่ดูแลจนพ้นวิกฤตตามคำสั่งรัฐบาล ของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ทุกอย่างย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าการทำงานของพรรคตามแนวทางของท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ยังดำเนินการไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ไม่เปลี่ยนแปลง
2. กรรมการบริหารพรรค จำนวน 9 ท่าน เป็นคนที่ท่านรู้จักดี โดยเฉพาะในรูปที่รับประทานอาหารวันนั้น ก็มีกรรมการบริหารพรรคอยู่ด้วย 1 ท่าน กรรมการบริหารพรรคที่เหลือเป็น ส.ส. 4 ท่าน เป็นพ่อ ส.ส. 1 ท่าน เป็นลูก ส.ส. 1 ท่าน รวมหัวหน้าพรรค อีก 1 ท่าน ดังนั้น 8 ท่านนี้ ท่านรู้จักแน่นอนครับ ท่านอาจจะลืมไปครับ เลยให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จัก
3. ในจำนวน ส.ส.หลายท่าน ผมได้รับข่าวยืนยันกลับมาว่าเป็นการไปร่วมรับประทานอาหารตามคำเชิญ แต่การตัดสินใจย้ายพรรคหรือไม่นั้น หลายท่านแจ้งว่ายังไม่ถึงเวลาตัดสินใจครับ ดังนั้นจำนวนคงไม่อาจนับได้ในเวลานี้ครับ
4. ส.ส.ที่ไป มี 2 ประเภท คือ
4.1 แบบเขตเลือกตั้ง ซึ่งแบบนี้คะแนนที่เลือกมีทั้งส่วนตัวและของพรรคร่วมกันอยู่ ส.ส.ในแบบนี้จึงมีภาระผูกพันอยู่กับพรรค เพราะตอนเสนอตัวให้ประชาชนเลือก ท่านเสนอตัวในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านจึงควรเคารพมติพรรคและอยู่ในกติกาของพรรคอย่างมีมารยาท หากเมื่อถึงเวลาแล้ว ย่อมเป็นสิทธิของท่านที่จะพิจารณาหาพรรคที่เหมาะสมกับจริตของท่านต่อไป
4.2 แบบบัญชีรายชื่อ แบบนี้คะแนนเสียงที่เลือก เป็นคะแนนของพรรค เพราะประชาชนเลือกที่พรรคไม่ใช่ตัวบุคคล และบัญชีรายชื่อที่พรรคเสนอ มีลำดับที่ชัดเจน ส.ส.แบบนี้ หากเห็นว่า พรรคที่สังกัดไม่ตรงกับความต้องการของตัวเองแล้ว ควรจะลาออกจากสมาชิกพรรคในทันที เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีรายชื่อถัดไปได้มีโอกาสมาทำงานตามนโยบายพรรคต่อไป
5. การเข้าพบหัวหน้าพรรค ไม่ได้เป็นเรื่องยาก หากท่านเข้าประชุมพรรค ท่านจะพบว่าท่านสามารถเสนอความคิดเห็นได้อย่างอิสระ และหลังจากประชุมแล้ว ท่าน ส.ส.ก็สามารถเข้าพบท่านหัวหน้าพรรคที่ห้องได้ตลอดเวลา รวมถึงงานเลี้ยงสังสรรค์หลังประชุม ถ้าท่านหัวหน้าไม่ติดภารกิจสำคัญก็จะไปร่วมงานเลี้ยงด้วยเสมอ ร่วมสนทนาพูดคุยอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง หากท่านมีภารกิจสำคัญที่ไม่สามารถไปร่วมได้ ก็จะมอบท่านเลขาฯให้ไปดูแลแทน
ผมขออนุญาตกราบเรียนข้อเท็จจริงมายังท่านสุชาติ ชมกลิ่น ด้วยความเคารพครับ หากท่านต้องการทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ผมในฐานะ ผู้อำนวยการพรรค ยินดีเข้าพบและนำเรียนครับ
และในโอกาสนี้ขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มั่นใจในพรรครวมไทยสร้างชาติภายใต้การนำของท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ว่าประเทศชาติและประชาชนต้องมาก่อน กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ
ด้าน นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) เผย กรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายออกจากพรรค รทสช.ว่า ตนขอยืนยันจะไม่ย้ายไปพรรคใด จะขออยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่อไปแน่นอน ส่วนข่าวที่ออกมาก็ว่ากันไป ซึ่งตนก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงมีชื่อตนอยู่ในกลุ่มด้วย ทั้งที่ไม่เคยแสดงออกว่าจะอยู่กับกลุ่มใด พร้อมย้ำว่าตนเป็นคนชัดเจน เมื่อเลือกมาทำงานกับพรรคแล้ว ก็ขออยู่ร่วมมือและช่วยเหลือกันกับพรรคอันเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังต่อไป
เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีโอกาสไปร่วมงานกับพรรคอื่นหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคที่เป็นกระแสข่าวในปัจจุบัน นายจิรวุฒิ กล่าวว่า ตนย้ำอีกครั้งว่า ปัจจุบันยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ขออยู่กับพรรคไปจนครบวาระสมัย ส.ส. นี้
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงการปรากฏชื่อและภาพถ่ายในงานเลี้ยง สส. จนถูกจับตามองว่าอาจเป็นอีกคนที่ย้ายไปอยู่พรรคที่มีกระแสข่าวในปัจจุบันว่า ตนแค่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์เท่านั้น และเพิ่งไปเป็นครั้งแรก โดยขอยืนยันว่ายังรักและเคารพพรรครวมไทยสร้างชาติ เหมือนเดิม เพราะเป็นมรดกและมีดีเอ็นเอการทำงานมาจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนกระแสข่าวที่เกี่ยวกับพรรคใหม่นั้น ตนไม่มีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับพรรคหรือคนในพรรคนี้ เพราะในความเห็นของตนและเพื่อน ส.ส.บางส่วนยังยืนยันไปในทางเดียวกันว่าไม่คิดย้ายพรรค และยังรักรวมไทยสร้างชาติอยู่เหมือนเดิม