ถกงบวันแรก ! รวมวาทะเด็ด ฝ่ายค้าน ไม่ปล่อยผ่าน งบ69
เมื่อวานนี้ ( 28 พ.ค.68 ) เป็นวันแรกของการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก
และ เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา มีหลายวาทะเด็ดจากพรรคฝ่ายค้าน วันนี้ ทีมข่าว The Better ประมวลภาพรวมให้ได้ชมกัน
นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายว่า ตนเองขอยกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ทั้งสิ้น 4 ประการ ได้แก่
1.รัฐบาลชุดนี้ ขาดความเป็นมืออาชีพในการทำร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว
2.ขาดความเป็นผู้นำของส่วนราชการ ก็ไม่สามารถบอกได้จริงว่าปัญหาคืออะไร เมื่อข้าราชการคิดกรอบงบประมาณมา ก็ส่งต่อมาให้สภา และฝ่ายค้านก็เสียงน้อยกว่าอยู่แล้ว ก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วพวกท่านจะอยู่ทำไมตรงนั้น เอาข้าราชการประจำหรือปลัดกระทรวง มาอยู่ดีกว่าหรือไม่
3.ไม่ทราบความจำเป็นเร่งด่วนในประเทศของเรา ว่ากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่
4.ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และความมั่นคงกับภายใน และภายนอกประเทศที่กระทบกับเรา รัฐบาลก็มองไม่ออก
นอกจากนี้ นายกัณวีร์ ยังยกตัวอย่างปัญหาที่ควรเป็นตัวตั้งในการจัดทำงบประมาณ ตัวอย่างเช่น ปัญหาเจาะเหมืองมลพิษชายแดนต้นแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ปัญหาในประเทศเพื่อนบ้านของเราที่มีการจัดทำเหมืองทอง เหมืองแร่แรเอิร์ธ และมีผลกระทบต่อจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย ไล่ลงมาสู่แม่น้ำโขง จึงตั้งคำถามว่ามองไม่ออกว่านี่คือปัญหาจริง ๆ หากมองออกจะรู้ว่าจะจัดทำงบประมาณอย่างไร และจะรู้ว่าแผนการแก้ไขปัญหาส่วนนี้ควรทำอย่างไร
น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 การปฏิรูปงบประมาณกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและคอร์รัปชัน ใน 3 หัวข้อคือ การจัดการปัญหาคอร์รัปชัน คือนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ, การหาส่วนต่างจากงบประมาณ และข้อเสนอในการปฏิรูปกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและลดคอร์รัปชัน
“ ประเทศไทยไม่เคยมีรัฐบาลที่มีเจตจำนงในการจัดการปัญหาทุจริตและทุจริตคอร์รัปชัน ย้อนหลัง 20 ปีไป ดัชนีทุจริตเราไม่เคยลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลย สะท้อนปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย นายกรัฐมนตรีเมื่อกี้ท่านบอกว่าต้องติดอันดับ 1 ใน 45 และได้คะแนน 56 ตั้งเป้าแบบนี้ท่านรู้หรือเปล่าที่อ่านมา เราตั้งกันมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ทุกวันนี้ท่านก็ลองดูดัชนีคอร์รัปชันเอาเองก็แล้วกัน เทียบกับสิงคโปร์คอร์รัปชันเขาต่ำมาก ดาวค้างฟ้ายืนหนึ่งในเรื่องความโปร่งใสในเรื่องคอร์รัปชัน เขาถึงได้รับความไว้วางใจจากทั่วโลก ให้กลายเป็นฮับทางด้านการเงิน ซึ่งเราเทียบเขาไม่ได้ มันไม่ติดฝุ่นไปแล้ว ส่วนเวียดนามก็ดีขึ้นกว่าไทยแล้วในปัจจุบัน ” น.ส.รักชนก กล่าว
นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) กล่าวอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ว่า ขอตั้งข้อสังเกตการจัดสรรงบฯของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชนฐานราก โดยเฉพาะเกษตรกรและกลุ่มคนตัวเล็ก แม้งบฯปีนี้จะมีวงเงินสูงถึงกว่า 3.78 ล้านล้านบาท แต่ยังเป็นงบขาดดุล และให้น้ำหนักกับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากส่วนบนของพีระมิดมากกว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากฐานล่างที่ยั่งยืนกว่า เพราะจัดงบฯแบบภาวะปกติ ทั้งที่ไทยยังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก
“ ตนเองกังวลว่าการโยกงบประมาณเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น งบโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมูลค่า 1.57 แสนล้านที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป้าหมายการใช้เงินอย่างเร่งรีบ ขาดแผนงานชัดเจน อาจเป็นช่องทางให้เกิด “โกงแบบ Fast Track” จึงขอเสนอ 7 แนวทางที่รัฐบาลต้องเร่งทำ คือ 1.)หยุดคอร์รัปชันเชิงนโยบาย 2.)ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก 3.)เพิ่มงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 4.)ฟื้นฟูภาคเกษตร 5.)กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 6.)ปฏิรูปการศึกษา และ7.)สร้างระบบสวัสดิการถ้วนหน้าอย่างแท้จริง” นายชัชวาล กล่าว
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี2569 ถึงงบประมาณของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท สังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการตั้งงบประมาณสูงเกินจริงเพื่อหวังกินเงินส่วนต่างหรือเงินทอน ว่า มีรายงานของคณะทำงานที่กรมบัญชีกลางตั้งขึ้นเพื่อทบทวนการจัดชั้นผู้รับเหมา ยืนยันต่อการประเมินว่ามีเงินทอนจากโครงการสร้างทาง โดยคิดเป็น 16.7% เพราะนำตัวเลขของการประกวดราคาของผู้รับเหมา ในปี 2566 พบว่ามีผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ประหยัดงบได้ 0.4% ขณะที่ผู้รับเหมาชั้นหนึ่ง คือ 17.1% โดยส่วนต่าง 16.7% นั้นเชื่อว่าคือเงินทอน ที่แต่ละปีเชื่อว่าจะมีมูลค่าสูงถึงหลักพันล้านบาท
“ตนเองขอยืนยันว่าหากไม่มีการแก้ไขประกาศจัดชั้นผู้รับเหมาประเมินได้ว่าปี 2569 เชื่อว่า 2 กรมจะซ่อนเงินทอนไว้ที่ 8,161 ล้านบาท ทั้งนี้ การฮั้วประมูลและรีดไถของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ทำให้การก่อสร้างล่าช้าและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ งบประมาณที่เผื่อเงินทอนและฮั้วประมูล หากสภาฯ ยอมรับเท่ากับทรยศต่อประชาชน ทั้งนี้ตนและพรรคประชาชนไม่สามารถให้งบประมาณปี2569 ผ่านไปได้ ”นายวิโรจน์ กล่าว