"นภินทร" ยันความบริสุทธิ์ หลังรับข้อกล่าวหา กกต.  "สมเจตน์" ชี้ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมแจงทุกข้อหา

"นภินทร" โล่งใจหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจาก กกต. เตรียมหอบหลักฐาน พยานบุคคลเข้าให้ข้อมูลภายใน 5 วันนี้  เคลียร์บริสุทธิ์ทุกประเด็น "สมเจตน์"  งง กกต. ตั้งข้อหาไม่ระบุพฤติการณ์   ย้ำไม่เกี่ยว

นายนภินทร  ศรีสรรพางค์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์นพินทร  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26   สำนักงาน กกต.  ว่า ตนไม่เคยพูดและกระทำการเช่นนั้น   และเมื่อตนขอทราบเหตุเพิ่มเติมทางคณะกรรมการก็ไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้    ซึ่งก็ไม่เป็นไร    อย่างไรก็ตาม ตนแจ้งด้วยว่า ขอจัดเตรียมข้อมูลและให้การอย่างละเอียดภายใน 4-5 วันทำการนี้ และจะขอนำพยานเอกสารและพยานบุคคล ราวๆ 5-6 คน มาประกอบ    แต่ไม่ขอเผยรายละเอียดของบุคคลที่ 3 เพราะเป็นคนนอก   และต้องดูว่าเขาจะมาให้การในลักษณะใด    ว่าจะส่งเป็นเอกสารทำให้การหรือมาให้การด้วยตัวเอง

เมื่อถามว่าทางคณะกรรมการได้แจ้งพฤติการณ์ที่เราเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการฮั้ว สว.อย่างไรหรือไม่   นายนภินทร  กล่าวว่าก็มีการแจ้ง    แต่ตนไม่ขอลงในรายละเอียด    เพราะตนมีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่าตนไม่ได้กระทำเช่นนั้น    ดังนั้นมั่นใจในพยานต่างๆ ที่ตนเองมีอยู่    และมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง

"มั่นใจว่าสิ่งที่ผมจะนำพยานหลักฐานมานั้นสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ไม่ได้กังวลอะไร   ถือว่าค่อนข้างสบายใจเพราะว่าไม่มีพฤติกรรมอะไรที่ผมพิสูจน์ไม่ได้” นายนภินทร กล่าว  

ทางด้านนายสมเจตน์ ลิปะพันธ์  อดีต สส.สุโขทัย  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฮั้ว สว.   ว่า ตนเป็นกลุ่มคนนอกที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา    ซึ่งก็ไม่มีอะไร   เพราะเราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว    ในส่วนของคณะกรรมการไม่ได้มีการอธิบายหรือบรรยายพฤติกรรมว่าตนได้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร นั่นก็เพราะอาจเป็นข้อกล่าวอ้างของบุคคลเท่านั้น    ส่วนตัวก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนอะไร    ไม่มีการแจ้งพฤติการณ์    มีแค่ที่บอกว่าเป็นไปตามข่าว    และบอกว่าเป็นไปตามมาตรา 70   มาตรา 71   พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ้ง  สว.    ซึ่งเราก็ชี้แจงไป ตามข้อกล่าวหา    ซึ่งข้อกล่าวหาไม่มีอะไร   เราก็ชี้แจงไปตามนั้น    แต่ก็ได้แจ้งเอาไว้ว่าหากมีอะไรที่ต้องการให้เราชี้แจงเพิ่มเติมก็ยินดี   ส่วนผู้ที่มารับทราบข้อกล่าวหาคนอื่นๆ นั้นก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน    เพราะมีการแยกห้องสอบ

"เมื่อคณะกรรมการสอบสวนยังไม่ได้บอกเราเลยว่าเรื่องอะไร   ก็เลยตอบหรือชี้แจงไปได้แค่นั้น    ไม่ถามอะไรเลย    พอเข้าไปในห้อง    เราก็ยื่นชี้แจงตามที่เขากล่าวหามาแต่มันก็ไม่มีอะไรเลย เรื่องเส้นเงินก็ไม่มี" นายสมเจตน์ กล่าว

เมื่อถามว่าได้คุยกับนายอนุทินบ้างหรือไม่ นายสมเจตน์ กล่าวว่า ตนเป็นที่ปรึกษาจึงได้คุยกับหัวหน้าตลอดแต่ก็ไม่มีอะไร   และเรียนท่านว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง   ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว    ถ้าตนมีญาติพี่น้องเข้าไปลงสมัคร สว.ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง    แต่นี่ไม่มีอะไรเลย    ตนถึงถามว่า มีอะไรพิเศษฝากมาถามตนหรือไม่    ซึ่งเขาก็ไม่มีอะไร รวมๆใช้เวลารับทราบข้อกล่าวหาและให้ข้อมูลแค่ 15 นาที   ดังนั้นจึงถือว่างงและสงสัยว่าเราโดนเรื่องอะไร

เมื่อถามว่า เป็นการตอกย้ำความรู้สึกของเราหรือไม่ว่า นี่เป็นเรื่องการเมือง   นายสมเจตน์  กล่าวว่า ไม่อย่าไปคิดอย่างนั้นไม่เป็นเรื่องการเมืองหรอก มีแต่สื่อเท่านั้นที่พยายามจะโยงเข้าไปให้เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะส่วนใหญ่การเมืองก็มาจากสื่อมวลชน 
 
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าผู้ที่ถูกเรียกตัวมาวันนี้หลักๆเป็นแม่เหล็กที่อยู่ใกล้ตัวนายอนุทิน    นายสมเจตน์ กล่าว กล่าวว่าไม่รู้เลยจริงๆ   ส่วนเรื่องการไปรับประทานอาหารที่โรงแรมพูลแมนนั้น   ตนก็คิดว่า ไม่น่าจะเป็นข้อกล่าวหานั้น    เพราะนั่นเป็นโรงแรมใครก็ไปได้    ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมไหนเราก็สามารถไปรับประทานอาหารได้
 
ขณะที่ นายวงศกร ชนะกิจ   อดีตผู้สมัคร สส. ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย และเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณะภัย   สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงว่า ประเด็นที่คณะกรรมการตรวจสอบถามส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย    ซึ่งก็ตอบไปตามข้อเท็จจริง   ซึ่งกรรมการมีการสอบถามเรื่องในลักษณะของพฤติกรรมหรือเส้นเงินบ้าง   เป็นแบบเขาถามมา  เราก็ตอบไป    การชี้แจงก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาที    ตนไม่รู้ว่าใครมาบ้าง   เพราะแต่ละคนจะให้ปากคำคนละห้อง     ซึ่งตนก็ยังคงยังมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด   และยินดีที่จะมาให้ปากคำอีก    ถ้าหากคณะการสอบสวนยังมีข้อสงสัย
 

TAGS: #นภินทร #สมเจตน์ #ข้อกล่าวหา #กกต. # คดีฮั้วเลือกสว.