”กล้าธรรม“ เปิดบ้านต้อนรับ”อนุดิษฐ์-การุณ” อบอุ่น เตรียมแต่งตั้งเป็น“ประธานยุทธศาสตร์” สู้ศึกเลือกตั้งปี 70
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.)และ อดีต รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายการุณ โหสกุล สส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมาสมัครเข้าไปสมาชิกพรรคกล้าธรรม โดยมี นายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะนายทะเบียนพรรค ให้การต้อนรับ
โดยนายอรรถกร กล่าวว่า ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่พรรคกล้าธรรมได้ต้อนรับบุคลากรทางการเมืองที่มีอุดมการณ์ และแนวทางในการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นทางการ ทั้ง 2 ท่านถือว่าเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการเข้ามาช่วยทำให้พรรคกล้าธรรมมีความพร้อมในการทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศได้เข้มแข็งมากขึ้น ตนในฐานะตัวแทนของพรรคกล้าธรรมขอต้อนรับสู่ครอบครัวกล้าธรรม และขอขอบคุณสำหรับความจริงใจที่ท่านได้ให้มา เรารู้สึกดีใจที่ได้ทั้ง 2 ท่านมาร่วมงานกับเรา
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พวกเราเคยทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงหนึ่งจะเคยอยู่กันคนละพรรคการเมือง อยู่กันคนละฝั่ง แต่ได้มีการร่วมมือกันทำงาน และมีความเข้าอกเข้าใจในการทำงานในสภาและขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน หลายคนอยากทราบว่า เหตุผลในการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมเพราะอะไร ตนขอชี้แจงว่า พรรคการเมืองในประเทศไทยมีเป้าหมายและจุดประสงค์ที่จะทำเรื่องดีๆ ให้กับประชาชนและประเทศชาติ แต่ที่ตนสัมผัสมาพรรคกล้าธรรมยึดเอาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ซึ่งเรื่องนี้ถือว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ด้านนายการุณ กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนี้ เราคือกลุ่มคนที่มีดีเอ็นเอเดียวกัน การเข้ามาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ตนได้ติดต่อกับ ร.อ.ธรรมนัสมาตลอด ท่านให้ความรัก ความใจกว้าง ความใจถึง ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส มองว่า ตนเหมาะกับบทบู๊ จึงได้รับมอบหมายให้ทำการประสานงานกับภาคและจังหวัดต่างๆ ในการที่จะขับเคลื่อนเลือกตั้งในปี 2570 เราจะมีการเฟ้นหาตัวผู้สมัครทั่วในแต่ละภาค แต่ละจังหวัด ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ตนได้รับมอบหมาย
ทั้งนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ เปิดเผยถึง การทำหน้าที่เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรมว่า การกำหนดยุทธศาสตร์ ในการขับเคลื่อนพรรคเพื่อต่อสู้ในการเลือกตั้งปี 2570 จะต้องใช้เสียงของประชาชนในการสะท้อนความต้องการและปัญหาต่างๆ โดยเราจะมีแพลตฟอร์มเป็นช่องทางที่ทำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศสามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ มายังพรรคได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ความต้องการ และจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผล และนำไปกำหนดเป็นยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคต่อไป อย่างไรก็ตาม วันนี้คงเร็วเกินไปที่จะกำหนดว่าความคาดหวังของพรรคจะไปถึงจุดไหน เพราะสุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ