"ทนายอั๋น" เปิดศึกเดินหน้ายื่นหนังสือผ่าน "นันทนา"  ขอให้ 55 สว. หยุดทำหน้าที่ ชี้ดีเอสไอชี้ชัด ฝักใฝ่การเมือง-ได้ตำแหน่งโดยมิชอบ คาดหวังศาลรัฐธรรมนูญใช้บรรทัดฐานเดียวกับกรณี "ทวี" 

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พาประชาชน และอดีตผู้สมัคร สว. ยื่นหนังสือต่อนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา เพื่อขอให้สมาชิกวุฒิสภา หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยทนายอั๋น กล่าวว่า ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนของคณะทำงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ผลปรากฏชัดเจนว่าสว.กลุ่มนี้ มีการยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง และมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมีความชัดเจนว่าเป็นการฝักใฝ่ของพรรคการเมือง ทำให้วุฒิสภาตกต่ำ ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 

วันนี้จึงมายื่นหนังสือต่อนางสาวนันทนา เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรา 82 ทำการรวบรวมรายชื่อ สว. ไม่น้อยกว่า 20 คนส่งให้กับประธานรัฐสภา ทำการตีความ และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่ง ให้สว. ที่ถูกหมายเรียก ยุติการปฏิบัติหน้าที่ และให้ความเป็นสมาชิกภาพของสว.สิ้นสุดลงหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และคาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับการวินิจฉัย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่บางภารกิจ

ด้านนางสาวนันทนา กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกของการเมืองไทยในรอบ 93 ปี ที่วุฒิสมาชิกถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบเกินครึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติและผิดปกติตั้งแต่กติกา ที่วิปริตให้เลือกกันเอง ส่งผลให้เกิดการฮั้ว และขณะนี้สังคมก็รับทราบว่าการได้มาของสว.นั้นไม่ได้สุจริตเที่ยงธรรม ไม่โปร่งใส ขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ดีเอสไอ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับสว.ทั้ง 55 คน ซึ่งมีแนวโน้มจะแจ้งข้อกล่าวหาไปถึงผู้บงการ

"ภาพลักษณ์ของสว.ขณะนี้ตกต่ำลงที่สุดในประวัติศาสตร์ ประชาชนไม่ได้เชื่อถือ การทำหน้าที่ของ สว. เพราะที่มาไม่ชัดเจนมีข้อกังขา ซึ่งดิฉันจะดำเนินการตามคำร้อง รวบรวมรายชื่อส่งให้ประธานรัฐสภา และศาลรัฐธรรมนูญทำการวินิจฉัย เพื่อให้มีการวินิจฉัยว่าจะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ส่วนตัวเองในฐานะสว. ได้เคยประกาศแล้วว่า พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และพร้อมที่จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการลงมติ และให้ความเห็นชอบต่อองค์กรอิสระ " นางสาวนันทนากล่าว

นางสาวนันทนา ยังกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็น ดีเอสไอ  สตง. กกต. หรือว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นประโยชน์ทับซ้อน เมื่อสว.ลงมติเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระและองค์กรอิสระมาตรวจสอบ สว.อีกที ทำให้เกิดการทับซ้อน เป็นผลต่างตอบแทน ระหว่างผู้ที่ลงมติและผู้ที่รับตำแหน่ง จึงไม่สง่างามและไม่ควรเกิดขึ้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะลงความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็ตาม แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครยอมทำ หวงอำนาจ เพราะคิดว่านี่คืออำนาจสำคัญที่ตัวเองจะได้ประโยชน์ 

"ถ้าปล่อยให้สว.กลุ่มนี้ทำหน้าที่ต่อไปประเทศชาติป่นปี้พินาศแน่ เพราะเป็นการตอบแทนระหว่างคน 2 กลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจในการเปลี่ยนประเทศ "นางสาวนันทนากล่าว 

นางสาวนันทนา กล่าวว่า ซึ่งตนจะนำ คำร้องนี้ไปขอความกรุณาจากสวเสียงข้างน้อย เช่นสว. อิสระ และสวพันใหม่ ให้มาลงชื่อ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และเพื่อรักษาภาพลักษณ์เกียรติภูมิของสว. พวกเราพร้อมที่จะไม่ทำหน้าที่ เพราะมีสว. มัวหรือสีเทา ไม่ได้เป็นสว.ด้วยความสุจริตและโปร่งใส โดย ตนจะไปขอรายชื่อ สว. 20 คน ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ว่าต้องได้ 1 ใน 10 และจะนำเรื่องนี้ส่งไปยังประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 55 สว.ที่ถูกกล่าวหา เพื่อดูว่าประธานวุฒิสภาจะส่งคำร้องนี้ไปต่อยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเราก็จะเห็นว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งมีจิตวิญญาณเพื่อประชาชน จิตวิญญาณของผู้ดำรงตำแหน่งนี้ เห็นประโยชน์ส่วนตนหรือเห็นเปรียวส่วนรวมของประเทศชาติ ซึ่งจะมีการยื่นให้ประธานวุฒิสภาในสัปดาห์หน้า
.
ซึ่งวันนี้มีการประชุมวิปวุฒิสภา และกำลังจะบรรจุวาระตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่ง ศาลรัฐธรรมนูญ 2 คนและกกต. 1 คน ตนจึงตั้งคำถาม ถึงความสง่างาม เพราะว่าคณะ กรรมาธิการวิสามัญมีแต่หน้าเดิม ๆ ในกลุ่มสว. เสียงข้างมากเท่านั้น มองว่าเป็นการชอบธรรมหรือไม่และสง่างามหรือไม่ เป็นการทำลายประชาธิปไตยเพราะที่มาไม่โปร่งใสชัดเจนทุกฝ่าย