“ภูมิธรรม” ย้ำ จับมือคุย “เสี่ยหนู” บ่อย เพราะมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เผย รมต.ยังไม่มีใครได้รับสัญญาณจะถูกปรับพ้นครม. ห่วงสถานการณ์ชายแดนใต้ หลังก่อเหตุรายวัน สั่งหน่วยงานความมั่นคง เปลี่ยนทำงานเชิงรุก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเดินจับมือคู่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ โดยนายภูมิธรรมหัวเราะก่อนกล่าวว่า ตนกับนายอนุทินทำงานร่วมกันมาอย่างดี เมื่อวันที่ 22 เม.ย.เราประชุมเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ร่วมกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย เนื่องจากนายกฯห่วงใยในเรื่องเงินค้างจ่าย โดยการประชุมครั้งนี้นายกฯพึงพอใจ เพราะทุกคนสามารถดำเนินการได้ทั้งหมด และเชื่อว่าเงินทั้งหมดจะถูกใช้ภายในเดือน ก.ย.68 ทั้งนี้ ปกติเราจะเดินคุยกัน จับไม้จับมือกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา เป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ส่วนเรื่องอื่นเป็นแต่ละเรื่องแต่ละราวไป
เมื่อถามว่า การปรับพรรคร่วมออกอาจจะไม่มี แต่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในกระทรวงต่างๆ อาจจะมีอยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯบอกไปแล้วว่ายังไม่คิด ณ ตอนนี้ แต่เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายกฯให้สัมภาษณ์บอกว่าจะกลับไปคิด ถือเป็นข้อมูลหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าท่านจะปรับ แต่เท่าที่ตนทราบในหมู่รัฐมนตรียังไม่มีการพูดคุยกันว่าจะต้องถูกปรับ
เมื่อถามว่า ประชาชนไม่พอใจในเรื่องปัญหาราคาสินค้า หากไม่ปรับ ครม. จะช่วยดึงคะแนนของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่ามีเหตุผลอย่างไร อยู่ที่ดุลยพินิจของนายกฯ ซึ่งนายกฯพูดคุยกับหลายฝ่ายอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกันทั้งหมด
นายภูมิธรรม กล่าวถึง สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ว่า ตนห่วงใยสถานการณ์ และเห็นลักษณะการทำงาน ที่ถูกโจมตีเป็นรายวัน ซึ่งบางวันมีการก่อเหตุ 2-3 ครั้ง ในรอบ 4-5 วัน ที่ผ่านมา โดยจากสถานการณ์ดังกล่าวตนได้หารือกับ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ผ่านทางโทรศัพท์ เนื่องจากขณะนี้ติดภารกิจอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า อยากให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานเป็นรูปแบบเชิงรุก และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ไม่ใช่การตั้งรับเพียงอย่างเดียว
นายภูมิธรรม ยังได้พูดคุยกับ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอยากให้ ผบ.ทบ. และ ผบ.ตร. ได้ประสานงานกัน
นอกจากนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังได้หารือกับพล.ท. ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรส่วนหน้า ครอบคลุมโครงสร้างทั้งฝ่ายตำรวจภูธรภาค 9, ทหาร และกระทรวงมหาดไทย และเมื่อเช้าได้พูดคุยกับรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายความมั่นคง รวมไปถึงเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ผ่านระบบซูม ซึ่งตนเองได้แสดงความห่วงใย และได้สั่งการว่า ต้องมีความเปลี่ยนแปลง ต้องยุติสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ได้ ซึ่งได้ให้ไปวางแผนว่า จะมีมาตรการเชิงรุกอย่างไร
ส่วนมีการรายงานเพิ่มเติมด้านการข่าวหรือไม่ นายภูมิธรรม ปฏิเสธการตอบคำถาม เพราะหากพูดไป ฝ่ายตรงข้ามอาจจะรู้
ส่วนมีโอกาสจะนำการทหารมานำการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนไม่ได้บอกว่า จะให้ทำ แต่บอกว่า จะต้องสร้างความมั่นใจ ให้กับประชาชนที่เผชิญเหตุการณ์ไม่สงบ ไม่ใช่ว่า ไปยิงประชาชน หรือสามเณร เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และได้สั่งการให้ต้องระงับสถานการณ์ และทำหน้าที่ ใช้ยุทธการ ไม่ใช่นั่งอยู่กับที่ และให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาเอง ต้องระงับยับยั้งสถานการณ์ให้จบโดยเร็ว อย่างไรก็ตามนโยบาย หากมีอะไรเกิดขึ้นสามารถรายงานตรงมาที่ตนเองได้ทันที
ขณะเดียวกันนายภูมิธรรม ปฏิเสธจะลงพื้นที่ไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเกรงว่า หากลงพื้นที่ไป แทนที่เจ้าหน้าที่จะดูแลประชาชน กลับต้องมาดูแลตนเองแทน จึงอยากจัดการเรื่องนี้ให้จบก่อน แต่อย่างไรก็ตามจะลงพื้นที่ไปอย่างแน่นอน