"นายกฯ" บอก ได้หมด ใช้ ‘บุคคลในครอบครัว’ แทน ‘ทักษิณ’ ในญัตติซักฟอก ไม่แปลกใจฝ่ายค้านโหมโรง ‘ดีลแลกประเทศ’ ชี้ แค่ทำให้น่าสนใจ รับ ดินเนอร์ 21 มี.ค.นี้ กำชับเอกภาพพรรคร่วม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผย ฝ่ายค้านเปลี่ยนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จาก ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็น ‘บุคคลในครอบครัว’ ว่า ได้หมด เป็นไปตามกระบวนการ ตามเอกสารอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน หากทำขั้นตอนถูกก็โอเคอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงเรื่องกรอบเวลาที่ฝ่ายค้านมองว่านายกรัฐมนตรีไฟเขียวที่ 30 ชั่วโมง แต่ระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้านยังถกเถียงกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็น 30 ชั่วโมงที่ต้องแบ่งกัน โดยวิปจะไปคุยกัน และในที่ประชุม ครม.ก็มีการคุยกันเรื่องวาระการประชุมสภาว่า ในวันพรุ่งนี้จะตกลงกันเรื่องจำนวนชั่วโมง
เมื่อถามว่า หากเป็น 30 ชั่วโมงของฝ่ายค้านอย่างเดียว มองว่ามากไปหรือไป นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อภิปรายคนเดียวก็อาจจะไม่ค่อยเมคเซ้นส์เท่าไหร่ แต่กระบวนการในสภาก็ต้องว่ากันไป ให้ทางวิปตกลงกัน ตนไม่ได้ไปตกลงด้วย
ส่วนการนัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 21 มี.ค.นี้ จะมีการกำชับอะไรเป็นพิเศษเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพหรือไม่ นายกรัฐมนตรียอมรับว่า มี มีการคุยกันอยู่แล้วว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไร จะแบ่งเบากันได้อย่างไร จริงๆ แล้วในการอภิปรายคนเดียว หรือวงเล็บ 2 คน ก็ต้องมีเกี่ยวกับกระทรวงอื่นๆ อยู่แล้ว ต้องเต็มที่ ทุกกระทรวงก็ต้องช่วยกัน
ส่วนกรณีฝ่ายค้านทำโปสเตอร์โหมโรง “ดีลแลกประเทศ” เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า “ดีลแลกประเทศ?” พร้อมทำหน้านิ่งคิด แล้วตอบว่า ไม่ได้แปลกใจ ก็เป็นแบบนั้นเพื่อให้ได้รับความสนใจ เป็นเรื่องธรรมดา ตามปกติ รัฐบาลก็มีเช่นกัน ไม่ได้อะไร
เมื่อถามว่า หลังจากที่ฝ่ายค้านปล่อยของออกมา ตรงกับที่นายกฯ ทำการบ้านไว้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจริงๆ แล้วเป็นการเตรียมข้อมูลมากกว่า การบ้านที่ทำเป็นเรื่องนโยบายของแต่ละกระทรวง ว่ามีคำถามอะไรที่ฝ่ายค้านสนใจ จะได้เตรียมข้อมูลมาตอบ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก็หวังว่า 2 วันนี้จะจบ
น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณออกมาเสนอแนวคิดซื้อหนี้ประชาชนด้วยว่า เรื่องหนี้เป็นเรื่องที่นายทักษิณให้ความสนใจมาโดยตลอด เพราะเป็นนักธุรกิจมาก่อน และเป็นนายกฯ มา 6 ปี ซึ่งก็มองเห็นปัญหาว่าเรื่องหนี้สินเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ จึงหาทางช่วยเหลือ ซึ่งเป็นความคิดของคนที่หวังดีกับประเทศ อย่าเพิ่งเล่นประเด็นการเมือง เพราะยังต้องผ่านกระบวนการต่างๆ อีกหลายขั้นตอน จึงไม่ใช่การครอบงำอะไร เมื่อถามว่า เรื่องนี้สามารถทำได้จริงหรือไม่ เพราะตอนนี้รัฐบาลกำลังแบกรับภาระมากมาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้ประชาชนฟังให้เป็นความหวัง ส่วนการดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องไปหารือกัน ส่วนเอกชนจะเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่นั้น ต้องไปพิจารณาก่อน ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลก็อยากให้เกิดขึ้นได้จริง
น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสที่นายทักษิณออกมาเปิดไฮไลท์นโยบายต่างๆ ทั้งที่ควรจะออกมาจากรัฐบาล เพราะเราก็มีตัวตนของเรา แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ เราคงไม่เอาตัวตนเราไปขวาง
“ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ฉันไม่ได้หน้า ฉันไม่ทำ มันก็ไม่ใช่ ถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์กับประชาชนจริง เราก็ไม่ขวาง เพราะถ้าคิดว่า ทำแล้วไม่ได้หน้า ไม่ทำ ถ้าอย่างนั้นมันไม่มีอะไรทำกันแล้ว อย่างนี้มันก็จะแย่ อะไรที่เป็นความคิดที่ดีก็ต้องทำ” นายกรัฐมนตรี กล่าวและยืนยันว่า การที่นายทักษิณออกมาเปิดประเด็นเรื่องนี้ไม่ใช่ต้องการกลบกระแสการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน