เพื่อไทยแก้เกม "ลุงป้อม"สลัดทิ้งพปชร.ยกชุด ตั้งคนสนิท "ธรรมนัส"โควต้าคนนอก "นฤมล" รมว.เกษตรฯ "อัครา"รมช.เกษตรฯด้านปชป.สั่งกก.บห.เตรียมพร้อมประชุมด่วนร่วมรัฐบาล
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโผคณะรัฐมนตรี "อุุ๊งอิ๊งค์"ล่าสุดในส่วนของพรรคพลังประชารัฐนั้น ทางนายทักษิณ ชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ตัด 4 รายชื่อผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ออกไป เนื่องจากปัญหาภายในพรรค ระหว่างกลุ่มของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค โดยจะตั้งนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ โควต้าคนนอก และ นายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะโควต้า พรรคเพื่อไทย โดยที่ทั้งคู่ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้เพื่อตัดปัญหากรณีที่อาจจะมีการยื่นตีความเรื่องจริยธรรม หากไม่แต่งตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งใน4รายชื่อไปเป็นรัฐมนตรี และยังจะตัดเรื่องปัญหาปมคุณสมบัติ ของ ร.อ.ธรรมนัส อีกด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฎิบัติหน้าที่แทน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงนามหนังสือพรรคพลังประชารัฐ ถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อ ขอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติ
ทั้งนี้หนังสือดังกล่าว ระบุว่า ด้วยพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2567 คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ได้พิจารณาเรื่องเสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ.2561 ข้อ 17 (1) (ฉ) และ ข้อ 92
โดยที่ประชุมได้พิจารณาการที่พรรคพลังประชารัฐได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยโดยได้มีการแถลงข่าวร่วมกัพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่นๆไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐได้ลงมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคไปให้นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ผ่านนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 ท่าน ดังนี้
1. พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
3. นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
4. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว ได้มีมติเห็นชอบรายชื่อบุคคลดังกล่าวข้างต้นให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค
ทั้งนี้ หากรายชื่อบุคคลที่เสนอไปข้างต้น ปรากฏว่า มีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคคลใหม่และเสนอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการทดแทน
อย่างไรก็ตามปรากฏข่าวสื่อสารมวลชนว่า นายกรัฐมนตรี ให้สำนักเลขาคณะรัฐมนตรีหน่วยงานในสังกัดนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ติดต่อไปตามรายชื่อบุคคลที่พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆเสนอเป็นรัฐมนตรี เพื่อให้กรอกแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรี ตรวจสอบประว้ติ และ ลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรีกันครบถ้วนทุกพรรคแล้ว
แต่ปรากฏว่าเมื่อพรรคพลังประชารัฐสอบถามไปยังพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็น
บุคคลที่พรรคเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงทราบว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่ได้ติดต่อเพื่อส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้
ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐจึงมีหนังสือฉบับนี้เพื่อกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่มีอำนาจในการสั่งการสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้โปรดมีบัญชาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พลตำรวจเอก พัชรวาท เพื่อที่พรรคพลังประชารัฐจะได้ดำเนินการให้มีการกรอกข้อมูลในแบบฯและนำส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ นั้น หลัง นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบให้คนสนิท นำแบบฟอร์มกรอกข้อมูลประวัติเพื่อเป็นรัฐมนตรีมาส่งให้ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ล่าสุด มีรายงานว่า ทางแกนนำพรรคได้ประสานไปยังกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้เตรียมพร้อมสำหรับการนัดประด่วนในการเข้าร่วมรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค. )ซึ่งเป็นวันเดียวกันจะมีการประชุมส.ส.ของพรรคเประจำสัปดาห์ก่อนการประชุมสภา ทุกวันพุธและพฤหัสบดี
ทั้งนี้ตามข้อบังคับพรรคของประชาธิปัตย์ก่อนจะจะเข้าร่วมรัฐบาลต้องให้ที่ประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรคมีมติก่อนในขั้นสุดท้ายจึงจะเข้าร่วมรัฐบาลได้