“ปิยบุตร”เชื่อมั่น คำโต้แย้ง ศาลรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกล ไม่ทำให้ถูกยุบพรรค พร้อมเตรียมวิจารณ์รายละเอียดคำวินิจฉัยหลังพิจารณาเสร็จ ย้ำภายใต้ประชาธิปไตยที่มั่นคง สมพระเกียรติ ควรแก้ไขปรับปรุง ม.112
นายปิยบุตร แสงกนกกุลเลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางมายังพรรคก้าวไกลพร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยในที่ประชุม สส.ของพรรคก้าวไกล ในฐานะที่ตนเองเคยถูกยุบพรรคอนาคตใหม่มาก่อน และเท่าที่ดูบรรดา สส.พรรคก้าวไกลกำลังใจดีอยู่ สส. ทุกคนของพรรคยังปฎิบัติหน้าที่ของตนเองได้ดี และเท่าที่พูดคุย สส. มั่นใจว่าคำโต้แย้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญดีที่สุดแล้ว
ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตุว่า การยุบพรรคก้าวไกลเหมือนว่ายังไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมายเพียงอย่างเดียวแต่มีมิติทางการเมืองด้วย
นาย ปิยบุตรกล่าวต่อว่าตนในฐานะที่สอนด้านกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาตนเองได้พยายามอธิบายทุกครั้งเมื่อมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะต้องเป็นเรื่องของกฎหมาย ให้เป็นเรื่องหลักการที่ถูกต้องอย่าเอาความรู้สึกหรือปัจจัยทางการเมืองมาเป็นส่วนผสมในการตัดสิน แต่ตนเข้าใจว่าตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการยุบภาคหลายครั้ง และมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจำนวนมากที่ส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ
จึงเป็นธรรมดาที่ประชาชนจะประเมินในเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง และยืนยันว่าข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกล มีครบถ้วนทุกประเด็น เป็นไปตามข้อกฎหมาย ดังนั้นเชื่อว่าไม่ไปถึงขั้นยุบพรรค
ในขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องตอบข้อโต้แย้งของพรรคก้าวไกลทั้งหมด ซึ่งเป็นการตอบผ่านหลักวินิจฉัย ไม่ได้เป็นการตอบให้กับพรรคก้าวไกล หรือตอบคณะกรรมการการเลือกตั้งเท่านั้น แต่เป็นการตอบให้กับสังคมและประชาชนได้เข้าใจด้วย โดยหลังมีคำวินิจฉัยตนเองก็จะมีคำวิจารณ์ตามมา
ส่วนหากคำวินิจฉัยออกมาด้านลบ ผู้นำคนต่อไปของพรรคควรจะเป็นแบบไหน นายปิยบุตร มองว่า กลุ่มพวกความคิดแบบอนาคตใหม่และก้าวไกล สถาปนาเป็นพวกความคิดใหม่ทางการเมืองแล้ว ดังนั้น คนที่รับบทบาทต่อไปทั้งในวันนี้และวันหน้า ต้องยึดตามแนวทางของพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลต่อไป ที่สำคัญไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของแกนนำพรรคไม่กี่คนหรือ สส.ไม่กี่คน แต่มันสำคัญสำหรับความคาดหวังของประชาชน ก็คาดหวังว่าไม่ว่าวันนี้อะไรจะเกิดขึ้น แกนนำพรรคและพี่น้องในพรรคก้าวไกล อาสานำพาความหวังตัวของประชาชนให้สำเร็จ
ทั้งนี้นายปิยบุตร ยังมองว่ามาตรา 112 ควรปรับปรุงแก้ไข แต่ในความเป็นจริงในแง่ของทางการเมือง จากคำวินิจฉัย 3 / 2567 เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ดูเหมือนกับว่าการแก้ไขมาตรา 112 ถูกตีกรอบมากขึ้น แต่เมื่ออ่านคำวินิจฉัยทั้งหมดแล้วยังไม่มีตรงไหนที่บอกว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 แก้ไม่ได้ ส่วน สส. หรือพรรคการเมืองไหนจะดำเนินการรณรงค์ต่อ ก็ต้องประเมินจากสถานการณ์ทางการเมือง
โดยในความเห็นทางวิชาการตนเองยืนยันเสมอการรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในในระบบประชาธิปไตยอย่างมั่นคงและยั่งยืน ให้สอดคล้องสมเกียรติยศและประวัติศาสตร์ ของประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขมาตรา 112