"อนุทิน" ไม่แคร์ "ชูวิทย์" ประกาศทำลายภูมิใจไทย

"อนุทิน" ไม่แคร์ "ชูวิทย์" ประกาศทำลายการหาเสียงพรรคภูมิใจไทย

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองประกาศทำลายเสียงของพรรคภูมิใจไทย โดยจะตามไปทุกที่ ว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะผู้สมัครทุกคนก็ต้องขยันทำงานมากขึ้น พรรคภูมิใจไทยเราลงพื้นที่ทำงานกัน มีผู้สมัครครบทั้ง 77 จังหวัด ในการประชุมพรรคทุกสัปดาห์ ก็มีการนำปัญหาจากพี่น้องประชาชนมาเสนอให้ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน

ส่วนเรื่องที่จะยื่นต่อประธานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินคดีกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กรณีซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทในการดูแลของตระกูลชิดชอบนั้น ควรเลิกถามตนได้แล้ว เพราะถือว่านายชูวิทย์ ใช้สิทธิในฐานะประชาชน ถ้าท่านยื่นต่อ ป.ป.ช. แล้วมีการรับเรื่อง ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องตอบตามภาระหน้าที่ ซึ่งต้องพร้อมที่จะตอบ ไม่ว่าจะถูกหรือไม่ถูก.  

"ศุภชัย" ตอกกลับ "ชูวิทย์" ยันที่ดินเขากระโดงนับพันแปลงมีเอกสารสิทธิจากกรมที่ดินโดยชอบ ซื้อขายหลายทอดเกือบทุกแปลง ไม่ใช่มีเพียง 2 แปลง

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กรณีกล่าวหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่าที่ดินที่เขากระโดงเป็นที่ดินที่มีเจ้าของอยู่ประมาณ 1,000 กว่าแปลง ในเนื้อที่ประมาณ 5,000 กว่าไร่ เป็นที่ที่มีเอกสารสิทธิเกือบทุกแปลง และกรมที่ดินก็ออกเอกสารสิทธิให้มาโดยชอบ โอนผ่านกันเป็นมือที่สอง มือที่สาม มือที่สี่ไปกันเรื่อยๆ เฉพาะที่ดินที่กล่าวหา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มว.คมนาคม

นายศุภชัยกล่าวว่า ประการแรกคือนายศักดิ์สยามไม่มีที่ดิน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่อยู่ตรงนี้เลย สองคือที่ดินที่ นายชัย ชิดชอบ เป็นเจ้าของ ก็เป็นที่ดินที่ซื้อมาจากบุคคลอื่นที่เป็นเอกสารสิทธิ และมีการออกเอกสารสิทธิกันมาถูกต้อง

"วันนี้ประเด็นก็คือไปกล่าวหาว่านายศักดิ์สยามเป็นรัฐมนตรีแล้วปล่อยปละละเลยไม่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทำอะไร ความจริงแล้ว รฟท.เขาก็ทำหนังสือไปถึงกรมที่ดิน บอกว่าให้เพิกถอน กรมที่ดิน ถ้าเห็นว่าจะต้องเพิกถอนก็เพิกถอน แปลว่าคุณจะต้องเพิกถอนในที่ดินพันกว่าแปลง ซึ่งมีเอกสารสิทธิที่กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิให้ ซึ่งตรงนี้ผมจะบอกให้ว่ามันเคยมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด กรณีที่กรมที่ดินไปเพิกถอนเอกสารสิทธิของประชาชนที่มีเอกสารสิทธิโดยชอบ คุณต้องจ่ายค่าชดเชยเขา

"ผมว่าที่ดินแถบนั้นราคามหาศาล วันนี้กรมที่ดินก็ถามการรถไฟฯว่าการรถไฟฯมีเอกสารสิทธิอะไรที่มายืนยันว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งการรถไฟฯก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรนอกจากแผนที่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งยืนยันว่าถ้าในที่สุดแล้วมันจะต้องวินิจฉัยกัน อย่างไรก็เป็นเรื่องหน่วยงาน 2 หน่วยงาน" นายศุภชัยระบุ

นายศุภชัยกล่าวอีกว่า เอกสารที่นายชัยได้มา ตอนนั้น นายเนวิน ชิดชอบ อายุ 11 ขวบ จริงๆ แล้วการรถไฟฯก็ไม่เคยคิดว่า 5,000 กว่าไร่นี้เป็นของตัวเอง ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการตัดทางรถไฟไป จ.อุบลราชธานี ไม่ใช่ทางแบบ 2 ข้างทาง ความจริงคือที่ดินเขากระโดงเป็นเส้นทางจาก จ.นครราชสีมาที่จะไป จ.บุรีรัมย์ และมีการทำรางรถไฟพิเศษมาที่เขากระโดงเพื่อขนหินไปก่อสร้าง ตรงนี้ไม่ได้เป็นเส้นทางสายหลัก แต่ทำทางเข้ามาในป่าเพื่อมาขนหินจากเหมืองหินนำไปสร้างทางรถไฟไปจนถึง จ.อุบลราชธานี

"ตรงนี้ไม่ได้เป็นทางสายหลักเลย เป็นการสร้างมา แล้วตรงนั้น ณ ช่วงเวลาสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นที่รกร้างว่างเปล่า มาขนเสร็จแล้วก็จบ สร้างแล้วก็ไปต่อ ตรงนี้ก็เป็นที่ร้าง แล้วประชาชนก็เข้ามาจับจองจนกระทั่งกรมที่ดินได้มีการออกเอกสารสิทธิให้ ผมจะบอกว่ากรณีของนายชัย ตอนที่มีการไปออกเอกสารสิทธิของท่าน การรถไฟฯก็มาชี้แนวเขตของตัวเอง ซึ่งเป็นแนวเขตที่อยู่ข้างแบบสั้น ไม่ใช่ 1 กม.จริงๆ ก็ไม่ใช่แปลงนั้นแปลงเดียว เพราะจริงๆ มัน 1,000 กว่าแปลง

"ผมจะบอกว่าตรงนั้น วันนี้มีหน่วยงานราชการอยู่ มีโรงเรียน มีวิทยาลัยเทคนิค มีเรือนจำตั้งอยู่ที่ตรงนี้ทั้งนั้น และทุกที่มีเอกสารสิทธิหมด อย่ามากล่าวหาว่านายศักดิ์สยามได้ทำผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการไม่ให้หน่วยงานที่กำกับได้ดำเนินการ เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง อันนี้เป็นการกล่าวหากันซึ่งในแง่ของพรรคเองก็ยอมไม่ได้" นายศุภชัยกล่าว

TAGS: #อนุทิน #ชูวิทย์ #ภูมิใจไทย