"ฐากร" เผยผลสอบคะแนนเทอมแรก 6 เดือน 23 วัน ครม.เศรษฐา ได้แค่ D แถมติดF ติด "ร"เพียบ ไล่นักเรียนรีบพบอาจารย์ที่ปรึกษาด่วน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการประชุมอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ลุกขึ้นอภิปรายถึงผลการติดตามการทำงานของรัฐบาล ที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน เปรียบเทียบ ว่าการทำงานตลอด 6 เดือน 23 วัน ซึ่งมีทั้งหมด 38 วิชา ผลการสอบของนักเรียนพบว่า ได้เพียงเกรด Dเท่านั้น และอีกหลายวิชาติด F จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ตัวอย่างเช่น นโยบายเร่งด่วนที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายจุดประกายทางเศรษฐกิจให้กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะนโยบายเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้มีความเห็นจากหลายหน่วยงาน ทั้งคณะกรรมการป.ป.ช. ธนาคารแห่งประเทศไทย และล่าสุดคือสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ทักท้วงมาโดยตลอดจึงขอให้เพียงเกรด Dเท่านั้น
ตนจึงขอเสนอแนะให้รัฐบาล ใช้เงินของรัฐในอนาคตที่รัฐจะได้รับ ซึ่งเงินที่จะมาจากการนำเงินส่งเป็นรายได้ของรัฐ เช่น เงินของ กสทช. ซึ่งมีอยู่ประมาณกว่า 200,000 ล้านบาท มาปรับใช้ รวมถึงใช้การปรับลดงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกู้ ก็จะไม่กลายเป็นภาระและมีโอกาสที่นโยบายจะเดินหน้าไปสู่ความเป็นรูปธรรมได้
หรือการแก้หนี้ในภาคธุรกิจ ผลการสอบได้เพียง F ไม่ต่างจากค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทปริญญาตรี 25,000 บาทหรือรถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาทที่ได้เพียงเกรด Fเท่านั้น
นายฐากรกล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาค่าพลังงาน ที่เป็นนโยบาย ซึ่งรัฐบาลเดินหน้าตั้งแต่เริ่มการเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ปรากฏว่าล่าสุด ราคาพลังงาน เริ่มปรับตัวกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งจึงขอให้เพียงเกรด C
ส่วนการแก้ไขปัญหาความเห็นต่าง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อลดความขัดแย้งนำประเทศไปสู่ความปรองดอง ยังไม่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม ขอให้เพียง C- เท่านั้น ขณะที่การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นยังติด "ร" รวมถึงอีกหลากหลายนโยบายที่ต้องให้ผลการเรียน F เนื่องจากยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาใดๆให้กับประชาชน เช่น นโยบายเกษตรแม่นยำหรือการฟื้นอุตสาหกรรมประมง
นายฐากร ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนะเพิ่มเติม โดยชี้ให้เห็นว่า แผนการจัดซื้อฝูงบินโบอิ้งส่อว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน จึงขอให้ทบทวนแผนการจัดซื้อ ประกอบกับตลอด 3 เดือนแรกปี 2567 พบว่าเครื่องบินโบอิ้ง เกิดอุบัติเหตุถึง 9 ครั้ง
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบขบวนการฮุบงบของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งพบความผิดปกติในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยทั้ง 18 โครงการใช้งบประมาณรวมกว่า 2,012 ล้านบาท โดยพบว่าเป็นบริษัทกลุ่มเดิมที่ได้งาน จึงขอให้รัฐมนตรี DES เร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
และขอให้รัฐบาลเร่งทำงาน พร้อมทบทวนโครงการที่ส่อว่าจะเกิดการทุจริต เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณและการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะผลสอบที่ออกมา 6 เดือน23 วันได้เพียงเกรดD ขณะที่อีกหลายวิชาติดF นักเรียนจึงต้องรีบไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาโดยด่วนเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ผลการทำงานเป็นที่น่าพอใจมากกว่านี้ไม่เช่นนั้นตนเองและพรรคฝ่ายค้านคงต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 อย่างแน่นอน