"เพื่อไทย" ลุยหาเสียงอีสานใต้ โคราช,บุรีรัมย์,สุรินทร์ บุกถื่น "เนวิน" 2 วัน 5 เวที เดินหน้าแลนด์สไลด์

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 4-5 มีนาคม 2566 นี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่หาเสียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใน 3 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยในวันที่ 4 มีนาคม เวลา 10:00 น.  

เริ่มเวทีแรก ที่ อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองปักธงชัย อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นจะไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ก่อนไปเปิดเวทีที่ 2 ในเวลา 14:00 น. ณ ลานข้างสถานีรถไฟ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา และในช่วงเย็นเวลา 17:00 น. จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ณ สนามหน้าศาลากลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสนามนี้เคยมีเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน เชื่อว่าเพื่อไทยจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เก้าอี้จะเต็มทุกที่นั่ง

ทั้งนี้ในวันที่ 5 มีนาคม 2566 เริ่มตั้งแต่เวลา 11:00 น.จะเปิดเวทีปราศรัย ณ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนไปต่อเวทีปราศรัย ณ ตลาดเมืองใหม่ไอคิว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยแกนนำเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.และผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต ในพื้นที่

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า โอกาสนี้จะได้ประกาศนโยบายการดูแลที่ดินทำกิน ระบบสาธารณูปโภค และราคาพืชผลเกษตร ตลอดจนถ่ายทอดกระบวนการและแนวคิดการทำงานของพรรคเพื่อไทยที่จะมาเสริมคุณภาพผลผลิต และการเปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือนำพาพี่น้องประชาชนในการสร้างพืชผลเกษตรให้สอดคล้องความต้องการของตลาดโลก 

หลังจากนี้ จะมีเวทีพบปะพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยนางสาวแพทองธาร  จะเดินทางลงพื้นที่จนกว่าจะครบกำหนดคลอด รวมไปถึงองคาพยพของพรรคเพื่อไทยที่จะกระจายพบพี่น้องทั้งในเวทีระดับจังหวัดและระดับอำเภอ

นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีท่าทีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีต่อการเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า ทุกคนทราบว่าประเทศเป็นของประชาชนทุกคน นายเศรษฐาก็เป็นที่ยอมรับในแวดวงเศรษฐกิจและธุรกิจ

ต่างจากพลเอกประยุทธ์ที่อยู่ในค่ายทหารมาตลอด แต่กลับเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ พลเอกประยุทธ์ควรแสดงวุฒิภาวะที่ดีมากกว่านี้ ควรสำนึกว่าเติบโตมาในชีวิตราชการอย่างไร ส่วนตัวมองว่าท่านโตมาในกองทัพและกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ส่งต่อมาเป็นทอดๆ และตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

ไม่คิดว่าคนไทยจะเห็นพลเอกประยุทธ์เป็นที่พึ่งอีกแล้ว และไม่สามารถเห็นอนาคตภายใต้การนำของท่านได้ เพราะประเทศไทยไม่ใช่ค่ายทหาร ประชาชนไม่ใช่พลทหาร อำนาจที่มี แนวทางที่เป็น ไม่ได้สอดรับกับความต้องการของประชาชนที่รออยู่ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะขับเคลื่อนนโยบายและเดินหน้าเป้าหมายแลนด์สไลด์ต่อไป 

ส่วนกรณีที่นายเศรษฐยังไม่ได้เข้าร่วมเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยนั้น นายณัฐวุฒิชี้แจงว่า เนื่องจากติดภารกิจ แต่หลังจากนี้ไปจะเห็นนายเศรษฐาร่วมด้วยแน่นอน เพราะนายเศรษฐาเองมีสถานะที่แวดวงธุรกิจยอมรับ มีมิติด้านนโยบายที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้ อย่างไรก็ตาม

ยอมรับว่าความเป็นที่รู้จักของนายเศรษฐาต่อประชาชนอาจต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าภายใต้การทำงานเป็นทีมของพรรคเพื่อไทยจะทำให้ประชาชนสัมผัสและให้การตอบรับนายเศรษฐาในนามประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย 

“ส่วนของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่าจะส่งรายชื่อครบ 3 รายชื่อ ทุกคนล้วนเป็นตัวจริง ไม่มีตัวหลอก ประชาชนพิจารณาหาคนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ซึ่งสุดท้ายแล้วจะเป็นใครก็จะต้องรอมติกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง” นายณัฐวุฒิกล่าว