การขอเปิดซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงมติ นั้นฝ่ายค้านยังไม่ขยับ แต่ส.ว.ชิงตัดหน้าไปก่อนแล้ว จึงทำให้มองว่า มีนัยยะการเมืองแอบแฝงมากกว่าสาระเรื่องผลประโยชน์ชาติ เนื่องจากส.ว.ชุดนี้กำลังจะหมดวาระเดือนพ.ค.นี้

การที่ส.ว.กลุ่มหนึ่ง ล่าชื่อเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)แถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ซึ่งในทางการเมืองเรียกว่าการเปิดซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงมติ  ที่นำโดย  นายเสรี สุวรรณภานนท์ และนายจเด็จ อินสว่าง เป็นแกนนำ นั้น เมื่อไล่เรียงเหตุผล ของการยื่นญัตติ และ ระเวลาของการเข้ามาเป็นรัฐบาลเพียงแค่ 4 เดือน ถือว่าส.ว.เปิดเกมรุกเร็วไป

ในอดีตที่ผ่านมา การขอเปิดซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงมติ นั้นส่วนใหญ่  เริ่มจากสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะฝ่ายค้าน ซึ่งมีทั้งการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเมืองขณะนั้น  แต่ถึงนาทีนี้ฝ่ายค้านยังไม่ขยับ แต่ส.ว.ชิงตัดหน้าไปก่อนแล้ว

การเปิดเกมรุกเร็วดังกล่าว จึงถูกทำให้มองว่า มีนัยยะการเมืองแอบแฝงมากกว่าสาระเรื่องผลประโยชน์ชาติ เพราะแกนนำกลุ่มส.ว.ดังกล่าวที่ออกมาเคลื่อนล่าชื่อยื่นญัตติ ถูกจัดอยู่สายขาประจำ ที่ยืนตรงข้ามกับรัฐบาลเพื่อไทยมาตลอด ต้องการซักฟอกทิ้งทวนรัฐบาลครั้งสุดท้าย ก่อนที่ส.ว.ชุดนี้กำลังจะหมดวาระ การดำรงตำแหน่ง 5 ปี ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 

ทั้งนี้ส.ว.ชุดนี้จะไม่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งส.ว.อีก เนื่องจาก ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.ข้อ 53 กำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้ต้องการที่จะสมัครชิงตำแหน่ง ส.ว. ไว้มากถึง 26 ประการ และหนึ่งในนั้น ระบุว่า เคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ

ฉะนั้นการยื่นซักฟอกรอบนี้หากสำเร็จ ก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่กลุ่มพวกเขาจะสร้างเงื่อนไข ประเด็นการต่อรองกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้ทั้งในรูปแบบเรื่องของโครงการ งบประมาณ ที่อาจจะนำไปเอื้อพวกพ้อง โดยเฉพาะในช่วงนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณ 2567 และพ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อทำนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องพึ่งเสียง และกระแสของส.ว.ไม่ให้มีการโจมตีหรือเหนี่ยวรั้ง ซึ่งในทางการเมือง หากรัฐบาลไม่ต้องการแรงต้าน ก็ต้องเคลียร์

นอกจากนี้ยังมีเรื่องประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ส.ว.ชุดนี้ ยังติดเงื่อนไขจะเล่นการเมืองต่อไม่ได้ทันที หากต้องหมดวาระลง จึงต้องโชว์อิทธิฤทธิ์ เดินเกมต่อรองก่อนที่จะหมดวาระ เพราะไม่อย่างงั้นตกงานยาว

ศึกอภิปรายครั้งนี้จึงหนีไม่พ้นเกมเคาะกะลาทิ้งทวน ส่วนจะได้รายชื่อครบ 84 เสียงหรือไม่ ต้องลุ้นกัน