ประวัติน่ารู้เกี่ยวกับ "วันฮาโลวีน"  Halloween Day

ประวัติน่ารู้เกี่ยวกับ
ประวัติน่ารู้เกี่ยวกับ "ฮาโลวีน" วันแห่งการฉลองด้วยลูกกวาด และต้นกำเนิดตำนานผีฟักทอง

"วันฮาโลวีน" เป็นอีกเทศกาลหนึ่งของชาวตะวันตกที่แพร่หลายในไทย เชื่อกันว่าเป็นวันที่โลกนี้และโลกหน้าโคจรมาใกล้กันที่สุดจึงเกิดธรรมเนียมสุดหลอนเป็นกุศโลบายป้องกันผีร้าย โดยเด็กๆจะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจ พากันชวนเพื่อนออกไปงานฉลอง ส่วนกิจกรรมประจำเทศกาลก็คือการเล่น trick or treat ซึงเป็นเด็กที่ะตระเวนไปตามบ้านต่างๆและขอลูกกวาด และที่สำคัญคือแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ เรียกว่า jack-o’-lantern 

ซึ่งการฉลองวันฮาโลวีนนิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกา, ไอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ รวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนาน

วันฮาโลวีน Halloween คือวันอะไร?

วันฮาโลวีน (Halloween) คือ เทศกาลเฉลิมฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี ในวัฒนธรรมของตะวันตก โดยจะจัดขึ้นก่อนถึงวันสมโภชนักบุญทางศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิก แต่ในปัจจุบันฮาโลวีนกลายเป็นเทศกาลที่นิยมจัดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก

คำว่า Halloween ในภาษาอังกฤษ มาจากคำ "All Hallows Eves" หมายถึง "วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย" (Hallow แปลว่า ศักดิ์สิทธิ์) โดยในเวลาต่อมา วันฮาโลวีนไม่ได้มีบทบาทแค่เป็นวันที่มีพิธีกรรมเฉลิมฉลองนักบุญเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานที่สร้างสีสันประจำปี

ประวัติ วันฮาโลวีน Halloween

วันฮาโลวีน มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลของชาวเซลติคโบราณ ที่รู้จักในชื่อ Samhain มีที่มาจากชาวไอริชโบราณ ถือว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน เทศกาล Samhain มีขึ้นเพื่อฉลองจุดสิ้นสุดของช่วงสว่างแห่งปี และเข้าสู่ช่วงมืดของปี ทั้งยังถือกันว่าเป็นวันปีใหม่ของชาวเซลติคอีกด้วย

เทศกาลนี้บางกลุ่มก็เรียกว่า เทศกาลแห่งความตาย (Festival of the dead) ชาวเซลท์โบราณเชื่อว่าเป็นวันที่โลกนี้และโลกหน้าโคจรมาอยู่ใกล้กันมากที่สุด ทำให้เหล่าวิญญาณสามารถผ่านเข้าออกได้อย่างอิสระ ซึ่งวิญญาณของบรรพบุรุษที่เคารพจะได้รับการต้อนรับกลับบ้าน ในขณะที่วิญญาณร้ายจะถูกขับไล่ โดยมีความเชื่อกันว่าการที่จะสามารถขับไล่วิญญาณร้ายได้นั้น สามารถทำได้ด้วยการสวมชุดและหน้ากากผี ซึ่งมีจุดประสงค์คือการแฝงตัวเป็นวิญญาณเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย 

ฮาโลวีน เทศกาล Samhain ยังเป็นวันแห่งการตุนอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว และมีการเล่นรอบกองไฟในหลายที่ ไฟและแสงสว่างประเภทอื่นจะถูกดับลง และบ้านแต่ละหลังจะจุดไฟในเตา ส่วนกระดูกของสัตว์ที่ใช้เป็นอาหาร จะถูกโยนเข้าไปในเปลวเพลิงนี้ บางครั้งกองไฟ 2 กองจะถูกจุดไว้ข้างๆกัน ผู้คนกับสัตว์ที่เลี้ยงไว้จะเดินวนระหว่างสองกองไฟ ถือเป็นพิธีการชะล้าง

สัญลักษณ์ วันฮาโลวีน Halloween

วันฮาโลวีน ชาวเซลท์โบราณจะแขวนโครงกระดูกไว้ที่หน้าต่าง เพื่อแสดงออกถึงความตาย มีจุดกำเนิดในยุโรป จะมีการแกะสลักโคมไฟจากหัวผักกาด เพราะมีความเชื่อว่าหัวเป็นส่วนที่มีพลังที่สุดของร่างกาย ประกอบไปด้วยจิตวิญญาณและภูมิความรู้ ซึ่งชาวเซลท์ใช้ขับไล่วิญญาณร้าย

และยังมีการแกะสลักฟักทองเป็นตะเกียง หรือ "Jack-o'-Lantern ธรรมเนียมการแกะสลักฟักทองเป็นตะเกียงหรือโคมไฟนั้นมีที่มาจากตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช เกี่ยวกับชายที่ชื่อว่า Stingy Jack หรือแจ๊กจอมขี้เหนียว ที่หลอกล่อปีศาจด้วยกลโกงต่าง ๆ นานา พอแจ็กเสียชีวิต พระเจ้าไม่ยอมให้เขาขึ้นสวรรค์ ส่วนปีศาจก็โกรธแจ็กและไม่ยอมให้เขาลงนรก พร้อมส่งให้แจ็กออกเดินทางไปยังโลกมืดโดยมีแต่ถ่านเพื่อจุดไฟนำทาง ตำนานเล่าต่อไปว่าแจ็กได้เอาถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอร์นิพที่ถูกเจาะให้กลวงเป็นตะเกียง และยังออกเดินทางไปทั่วตั้งแต่นั้นมา

ในประเทศไอร์แลนด์และสกอตแลนด์ ผู้คนได้นำเอาหัวผักกาดเทอร์นิพหรือมันฝรั่งมาทำโคมไฟหรือตะเกียงของแจ็ก พร้อมกับแกะสลักหน้าที่น่ากลัว แล้ววางไว้ริมหน้าต่างหรือใกล้ ๆ กับประตูเพื่อป้องกันไม่ให้ Stingy Jack หรือวิญญาณร้ายเข้ามาใกล้ ในอังกฤษมีการใช้บีตขนาดใหญ่เพื่อทำเป็นตะเกียง Jack-o'-Lantern ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน

การเล่น Trick or Treat (หลอกหรือเลี้ยง)

การเล่น Trick or Treat เป็นการละเล่นยอดนิยมของเด็ก ๆ ในวันฮาโลวีน โดยเด็ก ๆ มักจะแต่งตัวเลียนแบบภูตผีปีศาจ แล้วออกไปตามบ้านเพื่อเคาะประตูแล้วกล่าวคำว่า "Trick or Treat" หากเจ้าบ้านไม่เลี้ยง หรือ "Treat" (ส่วนใหญ่จะเป็นขนม ช็อกโกแลต หรือลูกอม) ตามที่เด็กๆร้องขอ เด็กๆก็จะก่อกวนเจ้าบ้านหรือบริเวณที่พักอาศัย หรือ "Trick" นั่นเอง ซึ่งในบางพื้นที่ของประเทศไอร์แลนด์และสกอตแลนด์เด็ก ๆ จะร้องเพลง หรือเล่าเรื่องผีเพื่อให้เจ้าบ้านยอม Treat

"ตำนานผีฟักทอง" วันฮาโลวีน Halloween

ตำนานของ Jack-o’-Lanterns มีหลากหลายมาก เป็นเรื่องของชาวนาจอมเจ้าเล่ห์โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากตำนานพื้นบ้านไอร์แลนด์ เรื่องของ "แจ็ค โอแลนเทิร์น" (Jack O'Lanterns) ชายขี้เมาที่ใช้เล่ห์กลหลอกให้ปิศาจอยู่บนต้นไม้ แล้วเขาทำเครื่องหมายกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ปิศาจจึงลงมาไม่ได้ 

เมื่อได้โอกาสจึงทำข้อตกลงห้ามไม่ให้ปิศาจมาหลอก หรือนำสิ่งไม่ดีมาสู่ตัวเขา ปิศาจตอบตกลง โดยหลังจากที่แจ็คเสียชีวิต เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์และลงนรก ปิศาจจึงมอบถ่านร้อนๆ ที่กำลังคุไฟให้ เพื่อให้เขาใช้เป็นแสงสว่างและสร้างความอบอุ่นในค่ำคืนที่หนาวเย็น

แจ็คได้เจาะหัวผักกาดให้กลวง และนำถ่านไปใส่ไว้ ต่อมาชาวบ้านได้เลียนแบบด้วยการนำฟักทองมาคว้านไส้ออก เพื่อทำให้กลวงจะได้วางถ่าน หรือจุดไฟภายในผลฟักทองได้ จึงกลายเป็นฟักทองหน้าผีอย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ และยังเป็นสัญลักษณ์ของการปัดเป่าผี ปิศาจ ความชั่วร้าย ไม่ให้เข้าใกล้ โดยในทุกวันฮาโลวีน จึงนิยมนำฟักทองวางไว้บริเวณหน้าบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ผีมาทำร้ายนั่นเอง

นอกจากนี้ ปัจจุบันวันฮาโลวีนเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีการจัดกิจกรรมวันฮาโลวีนตามสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก ร้านอาหาร เป็นต้น รวมถึงมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับวันฮาโลวีน เช่น หน้ากาก ผี ฟักทองแกะสลัก หรือรับชมหนังผี หนังสยองขวัญเรื่องต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับความหลอนนั่นเอง

TAGS: #Halloween #ฮาโลวีน #ฟักทอง #ลูกกวาด