8 ร่างแรงงานในอิสราเอลถึงไทยแล้ว นำส่งกลับภูมิลำเนา ด้านกระทรวงแรงงานเตรียมส่ง 5 เสือพบครอบครัวมอบเงินเยียวยา
บรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในการนำร่าง 8 แรงงายไทย ที่เสียชีวิตที่อิสราเอล เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว เจ้าหน้าที่เตรียมทำพิธีกรรมทางศาสนาและทำพิธีวางพวงหรีด ก่อนส่งมอบให้ครอบครัวของผู้ตาย นำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดต่อไป
โดยนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน และอธิบดีกรมการจัดหางาน ให้สัมภาษณ์ระหว่างไปรับร่างผู้เสียชีวิตชาวไทยในอิสราเอล ว่า จะมีพิธีกรรมทางศาสนา และวางพวงหรีด ทั้งของคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก่อนจะนำส่งศพไปยังภูมิลำเนาทันที ภายหลังศพถูกส่งกลับไปยังภูมิลำเนาแล้ว ตนเองจะสั่งการให้ 5 เสือแรงงาน ไปพบญาติที่บ้านของผู้เสียชีวิต โดยชี้แจงเรื่องเอกสาร หลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับเงินเยียวยาที่จะได้จากกองทุนช่วยเหลือคนทำงานต่างประเทศ 40,000 บาท ที่จะมอบให้ทายาท
อีกทั้งยังมีเรื่องเงินจากกองทุนอิสราเอลที่จะมอบให้ภรรยา เดือนละ 40,000 บาท จะกว่าจะมีสามีใหม่ และลูกจะได้รับ 8,000-12,000 บาท กระทั่งอายุครบ 18 ปี
สำหรับวันนี้ เป็นร่างผู้เสียชีวิตจาก จ.ขอนแก่น 2 ราย จ.อุดรธานี 2 ราย จ.สุโขทัย 1 ราย จ.ชัยภูมิ 1 ราย จ.ศรีษะเกษ 1 ราย และ จ.นครราชสีมา 1 ราย อย่างไรก็ตาม ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้ยังเท่าเดิม อยู่ที่ 30 ราย และผู้บาดเจ็บก็ยังเท่าเดิมเช่นกัน คือ 17 ราย
นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า เที่ยวบินที่จะไปรับแรงงานกลับมายังประเทศไทยนั้น รัฐบาลพยายามทำให้เร็วที่สุด ให้คนไทยกลับมาทันภายในสิ้นเดือนนี้ ยอดเดินทางกลับประเทศไทยขณะนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน โดยวันนี้มีเข้ามาเพิ่มอีก 2 ไฟลท์ เป็น 274 คน 1 ไฟลท์ และ 276 คน อีกหนึ่งไฟลท์ ส่วนยอดผู้ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยนั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ มีจำนวน 8,389 คน วันนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก
นายไพโรจน์ ระบุว่า ตอนนี้เราส่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ไปช่วย 10 คน รวมถึง เจ้าหน้าที่ของไทยในสถานทูตอิสราเอล ได้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว จะทยอยส่งให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนการกระชับให้ช่วยดูเป็นพิเศษนั้น คือเรื่องของสภาพจิตใจ และอาหาร โดยวันนี้เราได้ส่งอาหารไปช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล เช่น น้ำ และอาหารที่ไม่เป็นอาหารต้องห้ามของอิสราเอล จำนวนเกือบ 4 พันชิ้น เพื่อประทังชีวิตให้กับแรงงานไทยที่อยู่โรงแรมในอิสราเอลที่พักกว่า 1,000 คน
ส่วนการร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในอิสราเอลขณะนี้ นายไพโรจน์ กล่าวว่า มีการร้องขอเจ้าหน้าที่เข้าไปเพิ่มเติม ซึ่งพยายามจะส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่แรงงานไทยบางส่วนถูกนายจ้างบังคับใหัทำงานต่อในสถานการณ์สงคราม ได้แจ้งไปยังทูตแรงงานที่อิสราเอล เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องของการไม่ยินยอมด้วยใจ การจะทำงานต่อต้องได้รับความยินยอมด้วยใจด้วย จึงได้ประสานให้อิสราเอลดูประเด็นดังกล่าว ไม่ให้มีการบังคับแรงงานทำงานในช่วงสงคราม
