ตำรวจเลิกทรงหัวเกรียนขาว 3 ด้าน "สายสืบ"ไว้รองทรงสูงได้ 

ตำรวจเลิกทรงหัวเกรียนขาว 3 ด้าน
ผบ.ตร.ลงนามปรับระเบียบทรงผมตำรวจ ยกเลิกทรงหัวเกรียน-ขาว 3 ด้าน อนุญาตผมด้านบนยาวไม่เกิน 5 ซม. ด้านข้างและหลังไม่เกิน 1 ซม.ส่วนผู้ปฏิบัติงานสืบสวนหาข่าว งานยาเสพติด พื้นที่เสี่ยงไว้ผมรองทรงสูงได้ 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ.2566 โดยในระเบียบมีการระบุเหตุผลที่ประกาศใช้ เนื่องด้วยเห็นว่าเป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการในปัจจุบันมากยิ่งขึ้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 (2) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มีใจความระบุว่า ระเบียบนี้เรียกว่า ‘ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ. 2566’ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และให้ยกเลิกระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ. 2561

ข้อ 4 ข้าราชการตำรวจชายเมื่อแต่งเครื่องแบบให้ไว้ผมสั้น โดยผมด้านบนความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร ด้านข้างและด้านหลังความยาวไม่เกิน 1 เชนติเมตร


ข้อ 5 สำหรับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยที่ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ตำแหน่งผู้บังคับการขึ้นไปกำหนด หรือที่ปฏิบัติหน้าที่การสืบสวนหรือการข่าวหรือการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เมื่อแต่งเครื่องแบบอาจไว้ผมไม่เป็นไปตามข้อ 4 โดยให้ไว้ผมรองทรงสูงได้

กรณีที่ไม่สามารถไว้ผมตามวรรคหนึ่งได้ ให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ตำแหน่งผู้กำกับการขึ้นไปเป็นผู้อนุญาต โดยการไว้ผมดังกล่าวจะต้องมีความเหมาะสม สะอาด และเรียบร้อย

ข้อ 6 การไว้ผมของข้าราชการตำรวจหญิงเมื่อแต่งเครื่องแบบ

6.1 ไม่ปล่อยให้ผมยาวประบ่าหรือปรกบ่าจนปิดอินทรธนู หากไว้ผมยาวต้องขมวดปลายผมให้เรียบร้อย ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการขมวดปลายผม ให้ใช้สีดำเพียงสีเดียว

6.2 หากจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมประกอบ ก็ควรใช้กิ๊บหรือริบบิ้นขนาดเล็กสีดำเพียงสีเดียว

6.3 ห้ามไว้ผมเปีย ผมแกละ ผมทรงหางม้า ผมม้า (ผมปรกหน้า) หรือทรงผมอื่นที่ไม่เหมาะสม

ข้อ 7 ข้าราชการตำรวจทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ และข้าราชการตำรวจที่แต่งเครื่องแบบในการปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย ให้ปฏิบัติตามที่หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ถือปฏิบัติ

ข้อ 8 เมื่อแต่งเครื่องแบบห้ามข้าราชการตำรวจทำสีผม หากจำเป็นต้องทำสีผม ให้ทำสีผมเป็นสีดำเพียงสีเดียว และห้ามใช้ครีมแต่งผมหรือสารอื่นใดตกแต่งทรงผมให้มองดูแล้วเหมือนผมเปียก

ข้อ 9 สำหรับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่การสืบสวนหรือการข่าวในการถวายความปลอดภัยหรือการอารักขาบุคคลสำคัญ ให้แต่งกายแบบสากลนิยม (ชุดสูทหรือเสื้อทรงซาฟารีและติดเครื่องหมายบอกฝ่าย (ถ้ามี)

ข้อ 10 ข้าราชการตำรวจทุกคนจะต้องประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยโดยเคร่งครัดเมื่อแต่งเครื่องแบบต้องแต่งกายให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงการแสดงกิริยาท่าทางที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ เช่น ยืนกอดอก ล้วงกระเป๋า ยืนพิง เท้าแขน เท้าเอว หรือนั่งไขว้ห้าง เป็นต้น ตลอดจน
ไม่แสดงกิริยาวาจาใด ๆ ในลักษณะหยาบคาย ดูหมิ่น หรือเหยียดหยามประชาชน

ข้อ 11 เครื่องแบบตำรวจที่ใช้สีกากี ให้ใช้ผ้าสีกากีพระราชทาน (สนว.01)

ข้อ 12 ให้สำนักงานจเรตำรวจหรือผู้บังคับบัญชาแล้วแต่กรณี ตรวจสอบกวดขันดูแล

การปฏิบัติตามระเบียบนี้ และรายงานผลการตรวจสอบและกวดขันดังกล่าวให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ ผ่านกองวินัย ตามห้วงระยะเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด

ข้อ 13 ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรักษาการตามระเบียบนี้

ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามในระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อมีเครื่องแบบ พ.ศ.2566 ลงวันที่ 17 ต.ค.66 

การปรับเปลี่ยนระเบียบตำรวจ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อมีเครื่องแบบ พ.ศ.2566 ดังกล่าว เป็นแนวนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ต่อยอดจากแนวคิด นโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ในการลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ แล้วเห็นปัญหา รับฟังปัญหาของผู้ปฏิบัติ นำมาปรับประยุกต์ ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เกิดความปลอดภัยแก่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานและประชาชน


 

TAGS: #ทรงผมตำรวจ #ขาว3ด้าน #หัวเกรียน #พล.ต.อ.ต่อศักดิ์สุขวิมล