"ธรรมนัส" ประกาศล้างบางห้องเย็นเถื่อน สั่งเอกซเรย์ทั่วประเทศ หลังหัวหน้ากักกันสัตว์เพชรบูรณ์ กรมปศุสัตว์ ถูกยิงระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โพสต์แสดงความเสียใจ สั่งเยียวยา หวั่นกระทบขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่
จากกรณี นายสราวุฒิ ประจวง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์เพชรบูรณ์ กรมปศุสัตว์ ถูกยิงเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบห้องเย็นหรือสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ หลังได้รับร้องงเรียนว่ามีผู้รำเอาเนื้อสุกรจากนอกพื้นที่มาจำหน่าย ในวัน 11 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ไว้อาลัย นายสราวุฒิ ประจวง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์เพชรบูรณ์ กรมปศุสัตว์
โดยระบุว่า “กระผม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของ นายสราวุฒิ ประจวง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์เพชรบูรณ์ กรมปศุสัตว์ จากการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบห้องเย็น หรือสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ ในวันที่ 11 ตุลาคม 2566”
ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส แสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ผู้เสียชีวิต กำชับให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ ดูแลเยียวยา ครอบครัวและบุตรอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นมอบเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท ส่วนผู้ที่บาดเจ็บก็ต้องรักษาและเยียวยาขวัญกำลังใจเช่นกัน เนื่องจากถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่เรื่องนี้ไม่ทำให้ล้มเลิกที่จะล้างบางผู้กระทำผิดกฎหมายแน่นอน จากนี้ต้องตรวจเอกซเรย์ทั่วประเทศเข้มข้นมากขึ้น ไม่มีละเว้นว่าใครเป็นนายทุน หรืออยู่เบื้องหลังห้องเย็นเถื่อนแม้แต่รายเดียว
มอบหมายอธิบดีกรมปศุสัตว์ ออกคำสั่งให้ปศุสัตว์ทุกจังหวัดตรวจห้องเย็นทั่วประเทศ โดยขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่ผู้การตำรวจแต่ละจังหวัดให้ร่วมมือดำเนินการเต็มที่ ประสานไปยังพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ขอให้สั่งกำชับผู้การจังหวัดทั่วประเทศแล้ว เพราะได้รับทราบข่าวและมีเบาะแสว่ามีเจ้าหน้าที่ตามด่านกักกันตามแนวชายแดนหลายแห่งถูกข่มขู่เอาชีวิต โดยเฉพาะด่านทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จนเสียชีวิตและบาดเจ็บครั้งนี้ น่าจะเป็นผลจากการที่ตนเองได้สั่งกวาดล้างและทำลายขบวนการนำเข้าสินค้าเกษตรเถื่อนอย่างจริงจัง โดยลอตแรกมีการเผาทำลายหมูเถื่อนเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2566 ซึ่งเป็นซากสุกรของตกค้างและของกลางในคดีพิเศษที่ 59/2566 จํานวน 161 ตู้ สำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นการทำลายของกลางครั้งประวัติศาสตร์ ที่มีการทำลายสินค้าเถื่อนมากถึง 4.5 ล้านกิโลกรัม หรือ 4 พันตัน มูลค่ารวมกว่า 450 ล้านบาท และจนถึงขณะนี้ยังมีการตรวจสอบห้องเย็นเพื่อปราบปรามการลักลอบขนส่งและซุกซ่อนหมูเถื่อน หรือสินค้าเกษตรอื่นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้กระทำผิดหวาดเกรงและพยายามตัดเส้นทางที่จะสาวถึงนายทุนใหญ่ดังกล่าว
.