ทำความรู้จักกับหมีแบร์บริค (BE@RBRICK) คืออะไร? ทำไมถึงราคาแพง? 

ทำความรู้จักกับหมีแบร์บริค (BE@RBRICK) คืออะไร? ทำไมถึงราคาแพง? 
มาทำความรู้จักกับหมีแบร์บริค (BE@RBRICK) คืออะไร? ทำไมถึงราคาแพง? 

แบร์บริค (BE@RBRICK) เจ้าหมีฟิกเกอร์ของเล่นที่ได้ผันตัวมาเป็นของสะสมราคาไม่ธรรมดาในปัจจุบัน ด้วยความพิเศษหลายๆ อย่างทั้งรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยส่วนหัวเป็นเจ้าหมีแต่มีช่วงตัวเป็นเลโก้หมีพุงป่องที่สามารถขยับแขนขาได้แถมยังยืน 2 ขาเหมือนคน อีกทั้งยังมีลวดลายบนตัวที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็เพราะแบร์บริคนอกจากจะมีลวดลายของทางแบรนด์แล้ว ก็ยังมีการออกแบบร่วมกันกับศิลปินชื่อดังและแบรนด์ชั้นนำจากหลากหลายสาขา แบร์บริคจึงเป็นมากกว่าของเล่นที่น่ารักแต่ยังถือเป็นอีกหนึ่งผลงานศิลปะที่มีมูลค่ามากกว่าสิ่งที่มันเป็นอีกด้วย

หมีแบร์บริค (Bearbrick) คืออะไร ?

BE@RBRICK คือรูปแบบของของเล่นสะสมที่ดูคล้ายเลโก้ผสมหมีน่ารักตัวหนึ่ง โดยมีหัวน่ารักๆ เป็นหมีผลิตและออกแบบโดยบริษัท MediCom Toy Incorporated (ผู้ผลิตของเล่นยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น) สืบเชื้อสายมาจาก Kubrick ที่คล้ายกับ Playmobil และ Lego อีกที 

แต่ BE@RBRICK จะมีหัวเป็นหมี ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนทั้งหมด 9 ชิ้น คือ หัว ลำตัว แขน มือ สะโพก และขา ในขณะที่ Kubrick จะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากกว่า คาแรกเตอร์ BE@RBRICK มีความผสมผสานระหว่างของเล่นและงานศิลปะ ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

BE@RBRICK ตัวแรกถูกวางจำหน่ายวันที่ 27 พฤษภาคม 2001 ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบให้เป็นของขวัญที่ระลึกสำหรับผู้ร่วมงาน World Character Convention ครั้งที่ 12 ที่โตเกียวประเทศญี่ปุ่น ผลิตโดยบริษัท Medicom Toy ประเทศญี่ปุ่นและมีคุณ Tatsuhiko Akashi เป็นเจ้าของ โดยตุ๊กตาแบร์บริคตัวแรกนั้นก็ยังเป็นแค่ฟิกเกอร์พลาสติกสีพื้นที่มีหัวเป็นหมี สกรีนตัวอักษร '@' ตรงหน้าอก และยังมีดีไซน์ช่วงลำตัวที่ถูกหยิบยืมมาจากรุ่นพี่อย่าง KUBRICK แบรนด์ของเล่นรูปแบบฟิกเกอร์รุ่นแรกของบริษัทอีกด้วย

จากของที่ระลึกที่แจกให้แขกในงานในวันนั้นจะได้รับความนิยมและกลายเป็นกระแสอย่างมากในเวลาต่อมา จนทำให้แบร์บริคได้ไป collabs กับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มากมาย โดยจะมีการผลิตตุ๊กตาของแบรนด์ออกมาในรูปแบบ Limited Edition ที่มีจำนวนจำกัด ซึ่งนั้นยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับตุ๊กตาแบร์บริคและทำให้ชื่อเสียงของแบร์บริคโด่งดังมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังแบร์บริคมักจะถูกเชื่อมโยงเข้ากับศิลปะ แฟชั่น สตรีทอาร์ต ดนตรี และความหลากหลายทางวัฒนธรรม มูลค่าของแบร์บริคจึงมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปตาม Pop culture จึงทำให้แบร์บริคกลายเป็นของสะสมที่มีคุณค่าและราคาแพงในที่สุด

ทำไมแบร์บริค (Bearbrick) ถึงมีราคาแพง ?

BE@RBRICK ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดและกลายมาเป็นของสะสมที่มีราคาแพง ก็เพราะว่าแบร์บริคมีการผลิตออกมาวางจำหน่ายในจำนวนจำกัดแบบ Limited Edition ในแต่ละซีรีส์เมื่อจำหน่ายหมดแล้วก็จะไม่มีการผลิตเพิ่ม อีกทั้งแบร์บริคในบางซีรีส์ก็ยังมีการวางจำหน่ายแค่เฉพาะบางประเทศหรือจำหน่ายแบบ Pre Order ในเวลาที่จำกัด ซึ่งทำให้แบร์บริคจะมีราคาเปิดตัวที่สูงแล้ว ราคาประมูลหรือราคาที่ถูกนำไปปล่อยต่อในตลาดก็ยังสูงขึ้นได้อีกหลายเท่า โดยสถิติแล้วพบว่าราคาขายต่อส่วนใหญ่จะสูงขึ้นมากกว่า 7% 

BE@RBRICK บรรจุอยู่ในกล่อง Blind Box ให้นักสะสมได้เปิดกล่องลุ้น

นอกจากความน่าสนใจแล้วแบร์บริคก็ยังเพิ่มความน่าดึงดูดใจและความตื่นเต้นให้แบรนด์ของตัวเอง ด้วยการบรรจุตุ๊กตาแบร์บริคในกล่อง Blind Box ทำให้เรามองไม่เห็นว่าตุ๊กตาแบร์บริคที่อยู่ในกล่องนั้นเป็นสีหรือลายอะไร ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดเหล่านักสะสมให้ได้มาลุ้นกันว่าตัวเองจะได้แบร์บริคลวดลายไหน

BE@RBRICK มีตัวละครลับหายากให้เก็บสะสมและเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการนำเอาวัฒนธรรมกาชาปอง (Gashapon) ที่นอกจากจะมีการใช้กล่องแบบ Blind Box ในการวางจำหน่ายแล้ว ใน 1 ซีรีส์ที่ปล่อยออกมาก็จะมีทั้งลายปกติและลายหายากปะปนอยู่ด้วยกันโดยจะมีเปอร์เซ็นต์ในการเจอ อีกทั้งยังมีการผลิตแบร์บริคแบบ Secret Types ออกมาในแต่ละซีรีส์ แน่นอนว่าแบร์บริคแบบ Secret Types นั้นเป็นลายที่หาได้ยากแบบสุด เพราะมีโอกาสเจอแค่ 0.52% เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นตัวละครลับที่ไม่เปิดเผยให้เห็นและยังไม่มีเปอร์เซ็นต์การเจอบอกข้างกล่องอีก

แบร์บริค (Bearbrick) มีแบบไหนบ้าง ?

ในแต่ละปี Medicom Toy จะปล่อย item ชิ้นนี้ในรูปแบบชุดที่เรียกว่า 'ซีรีส์' (Series) ที่จะมีการไล่ตัวเลขไปเรื่อยๆ และในแต่ละซีรีส์ก็จะถูกแบ่งเป็น 'ชนิด' (Types) และใน 1 ซีรีส์ก็จะประกอบด้วยตุ๊กตาแบร์บริค 4 ประเภท ดังนี้

1.Basic 
แบร์บริคแบบ Basic จะมีในรูปแบบสีพื้นเรียบ ๆ และมีการสกรีนตัวอักษร 1 ตัวในเฉดสีที่ตัดกันบนหน้าอก โดยใน 1 ซีรีส์จะมีแบร์บริคแบบ Basic ทั้งหมด 9 ตัว เมื่อนำมาเรียงต่อกันก็จะได้เป็นคำว่า B E @ R B R I C K 

2.Standard 
แบร์บริคดีไซน์ Standard เป็นแบบที่พบได้มาสุดใน 1 ซีรีส์ แบ่งลวดลายเป็น 8 แบบตาม Theme หลักของซีรีส์นั้นๆ ซึ่งประกอบด้วย

Jellybean : ผลิตจากพลาสติก มาในสีเรียบๆ และมีความโปร่งใส

Pattern : มีรูปแบบการออกแบบมากมาย เป็นลายซ้ำๆ ตั้งแต่ลายจุด ไปจนถึงการออกแบบร่วมกับศิลปินคนอื่นๆ

Flag : มาในลายธงชาติของแต่ละประเทศ

Horror : ลวดลายที่สร้างขึ้นจากตัวละครในภาพยนตร์สยองขวัญยอดนิยม หรือแหล่งที่มาอื่นๆ ที่ให้ความรู้สึกน่ากลัว

Animal : ลายของสัตว์ต่างๆ อย่าง หมี แมว เสือ เป็นต้น

Cute : ลายที่มีความน่ารัก

SF (Science Fiction) : เป็นลายจากตัวละครหรือธีมจากภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยม

Hero : รูปแบบใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาใน Serise 21 โดยจะจะมาในลายของตัวการ์ตูนจาก DC Comics 

3. Artist 
เป็นการร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียง เพื่อออกแบบลวดลายใหม่ๆ โดยใน 1 ซีรี่ส์จะมีศิลปินมาร่วมออกแบบ 2 คน

4. Secret 
เป็นตัวละครลับจะไม่โชว์ให้เห็น ซึ่งจะมีราคาสูงและหายากมาก  

ขนาดเปอร์เซ็นต์ BE@RBRICK 

ขนาดมาตรฐานเริ่มแรกจะมีความสูง 7 เซนติเมตร. ซึ่งเรียกกันว่าขนาด 100%  จากนั้น BE@RBRICK ก็ถูกสร้างสรรค์ในขนาดต่างๆ ตั้งแต่ 50% – 1,000%

Bearbrick 50% : ความสูง 3.0 เซนติเมตร
แบร์บริคไซซ์นี้เป็นไซซ์เล็กที่สุดมีขนาดกะทัดรัด นิยมนำมาทำเป็นพวงกุญแจ

Bearbrick 70% : ความสูง 5 เซนติเมตร
เป็นแบร์บริคที่ผลิตครั้งแรกในปี 2006 ใช้เป็นของสะสมมาพร้อมกับแบร์บริคไซซ์อื่นๆ

Bearbrick 100% : ความสูง 7 เซนติเมตร
เป็นแบร์บริคไซซ์มาตรฐานที่มีอยู่ในแบร์บริคทุกซีรีส์ เป็นขนาดเดียวกันกับแบร์บริครุ่นแรก

Bearbrick 200% : ความสูง 14.5 เซนติเมตร
เป็นแบร์บริคขนาดพิเศษที่มีเฉพาะไซต์นี้ถูกจัดจำหน่ายในซีรี่ย์หุ่นเหล็กแห่งยุคโชโกคิน  ทำจากเหล็กมีน้ำหนักประมาณ 400 กรัมต่อตัว

Bearbrick 400% : ความสูง 28 เซนติเมตร
เป็นแบร์บริคไซซ์เป็นขนาดรองอันดับสองที่ได้รับความนิยม นักสะสม BE@RBRICK  ส่วนใหญ่จะซื้อไซต์นี้มาสะสม

Bearbrick 1,000% : ความสูง 70 เซนติเมตร
แบร์บริคไซซ์ใหญ่ที่สุด มีการผลิตจำนวนจำกัดและยังเป็นที่ต้องการในตลาดของสะสม

แบร์บริค (Bearbrick) ที่แพงที่สุดในปี 2023 

Bearbrick x Kaws Dissected 1000% 

แบร์บริคที่มีราคาแพงที่สุดในปี 2023 นี้ (อัปเดตเดือนเมษายน 2023) เป็นของ Bearbrick Kaws Dissected 1000% Black ที่มีราคาขายล่าสุดอยู่ที่ $29,499 หรือประมาณ 1,013,216 บาท โดยแบร์บริคตัวนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างแบร์บริคและ KAWS นามแฝงของศิลปินและดีไซเนอร์สไตล์ Street Art ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ออกแบบคาแรคเตอร์ตัวละครสุดโดดเด่นที่ใช้ชื่อว่า KAWS 

แบร์บริคตัวนี้ได้นำจุดเด่นของ KAWS มาผสมผสานเป็นลวดลายบนตัวเจ้าหมีเอง ทั้งสัญลักษณ์กากบาท (X X) ที่ดวงตา ร่างกายฝั่งขวาของแบร์บริคที่ถูกผ่าออกเผยให้เห็นอวัยวะภายในสีสันสดใสตัดกับร่างกายสีดำที่ฝั่งซ้าย กลายเป็นผลงานสุดสตรีทสุดเท่ที่ดูสวยงาม Bearbrick x Yue Minjun ‘Qiu Tu’ 1000% (2008)

ส่วนเจ้าของสถิติแบร์บริคที่แพงที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบันก็คือ 'Yue Minjun 'Qiu Tu' 1000% BE@RBRICK' ซึ่งตอนนี้มีประมูลอยู่ที่ 181 ล้านบาท โดยเจ้าแบร์บริคตัวนี้เป็นผลงานดีไซน์ของ Yue Minjun ศิลปินร่วมสมัยชื่อดังของจีน และแบร์บริคตัวนี้ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการศิลปะ Contemporary Artists ณ กรุงปักกิ่ง ในปี 2008

นอกจากนี้ แบรนด์ BE@RBRICK เองก็ได้โลดแล่นในวงการของเล่นและของสะสมมานานกว่า 22 ปี ซึ่งถือว่าเป็น 22 ปีที่ประสบความสำเร็จกับกลยุทธ์การสร้างคาแรคเตอร์และการตลาดที่เข้าไปอยู่ในใจของนักสะสมหมีทั่วโลกได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันนอกจากแบร์บริคจะมีการผลิตตุ๊กตาเจ้าหมีแบร์บริคออกจำหน่ายแล้ว ทางแบรนด์ก็ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ผลิตออกมาวางจำหน่ายอีกมากมายได้เลือกซื้อกัน ทั้งแก้วน้ำ, เสื้อผ้า, หมวก, เครื่องประดับ, กระเป๋า ไปจนถึงของตกแต่งบ้าน ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูสวยงามน่าสะสมไม่แพ้เจ้าหมีแบร์บริค

TAGS: #แบร์บริค #BE@RBRICK #เจ้าหมีฟิกเกอร์