"พี่พีททททท-แก้มบุ๋ม" เปิดใจ หลังเซอร์ไพร์สคุกเข่าขอแต่งงาน ถึง  แผนชีวิตคู่ในอนาคต เรือนหอ และ วางแผนมีทายาท

หลังจากที่ คู่รักสุดฮอต หนุ่ม "พีท  - กันตพร หาญพาณิชย์ " ได้ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าสวมแหวนเพชรเม็ดโต ขอ "แก้มบุ๋ม - ปรียาดา สิทธาไชย" ดาราสาว แต่งงาน ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่เกาะพงัน 

ล่าสุด ทั้งคู่ได้ มาเปิดใจ กับสำนักข่าว TheBetter ถึง ความรู้สึกวันที่ หนุ่มพีท ขอ แก้มบุ๋ม แต่งงาน รวมถึงแผนในอนาคตของทั้งคู่ 

ความรู้สึกในวันที่พี่พีทขอแต่งงาน?

แก้มบุ๋ม กล่าวว่า ความรู้สึกตอนนั้นก็คือดีใจ รู้สึกว่ามันถึงวันนี้แล้วจริงๆแล้วหรอ ในชีวิตแล้วก็รู้สึกว่ามันต่างจากวันอื่นๆ ในแง่ที่ว่ามันเป็นวันที่พิเศษสุดๆอันดับต้นๆของชีวิต เพราะมันคือจุดเปลี่ยนของชีวิตอีกหนึ่งจุดที่ข้ามมา รู้สึกว่าสถานะมันเปลี่ยนนะ

คือต้องบอกก่อนว่า หนูเคยคิด หนูเคยเห็นคนบางคนที่เขาขอกันก็เป็นแบบโมเมนต์ที่มีแบบจุดพลุ เขาก็เหมือนแบบไปฉลองกันประมานนี้ แล้วก็รู้สึกว่า ชีวิตหนึ่งเราจะมีแบบนั้นไหม แต่หนูต้องบอกอีกอย่างว่า เป็นคนที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องแต่งงาน จะต้องมีคนมาคุกเข่าขอแต่งงาน หรือมาขอแต่แค่รู้สึกว่าชีวิตของเราจะมีแบบนั้นไหม แล้วก็ไม่คิดว่าพี่พีทจะคุกเข่า หนูแค่คิดว่าพี่จะนั่งแล้วทำเหมือนตอนขอเป็นแฟนแบบว่า เป็นแฟนกันนะอย่างงี้แต่งงานกันนะไม่คิดว่าจะมีแบบคุกเข่า แล้วก็ไม่คิดว่าพี่พีทจะร้องไห้ เกินสิ่งที่คิดไว้ในชีวิตว่าจะเจอ 

อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าพี่พีท ใช่เลย?

แก้มบุ๋ม กล่าวว่า ตอนแรกรู้สึกว่าคนละแนว คนละสไตล์มากค่ะ เพราะว่าเขาค่อนข้างที่จะเป็นแบบวิชาการ เรียกว่าเรื่องอะไรก็ตามเราก็รู้สึกว่า "ทำไมเขาต้องทำเป็นสเต็ป ทุกอย่างต้องเป็นขั้นเป็นตอน ทำไมเราต้องมีจุดเป้าหมายหรือว่าจุดตั้งเป้าในชีวิตด้วย ทำไมเขาต้องเขียนต้องลิสต์ มันเหมือนเรียนหนังสืออยู่ตลอด ทำไมฉันจะต้องกลับมาเรียนหนังสืออีกครั้ง" 

แต่สุดท้ายแล้วรู้สึกว่าเราสามารถปรับตัวเข้าได้ เขาคือสิ่งที่ในชวิตไม่คิดว่าจะเจอแล้วรู้สึกว่า แบบนี้หรอที่เราต้องการ แต่เขาทำให้เราเป็นแก้มบุ๋มในเวอร์ชันที่ดีขึ้นและโตขึ้นมากๆ  แล้วรู้สึกว่าเวอร์ชันนี้แหละที่ฉันชอบ ก็เลยรู้สึกว่าเขาคือสิ่งที่ตอบโจทย์ในชีวิตเรา เพราะไม่อย่างงั้นเราก็ยังแบบทางนู้นที ทางนี้ที ไม่มีการวางแผนเลย แต่กลายเป็นว่า เราเริ่มมีขั้นมีตอน แต่ว่าไม่ได้แย่จนเกินไป ไม่ได้หนักจนเกินไป ไม่ได้รู้สึกกดดันมากจนเกินไปค่ะ

4 ปีที่คบกัน งอนเรื่องอะไรมากที่สุด?

แก้มบุ๋ม กล่าวว่า เริ่มช่วงแรกๆ ที่ปรับตัวกันได้หลังจากนั้นหนูก็จะปล่อยชิลมาก คือไม่มีปัญหาอะไรเลย น้อยมากที่จะทะเลาะกัน นอกจากจะเป็นคำพูดแค่เล็กๆน้อยๆ แทบไม่ทะเลาะไม่อะไรเลย เพราะว่าพี่พีทเองเป็นคนที่ไม่ได้ปาร์ตี้ ไม่ได้สังสรรค์เยอะ หรือว่าถ้าเกิดว่าจะไป  "เขาจะโทรจนเราคิดว่า นี่เราเลิกงานเร็วใช่ไหม ทำไมเราต้องโทรหาเยอะขนาดนี้อะไรอย่างงี้"

ซึ่งจะไม่มีปัญหาอะไรเลย แล้วก็ไม่ได้น้อยใจอะไรเขาหนักๆไม่มีเลย เป็นแค่ช่วงแรกๆ เพราะว่าคนสองคนที่บุคลิกต่างกันมาก ถ้าช่วงแรกไปรอดแล้วจูนกันได้มันจะมีตรงกลาง สำหรับเราที่หนูคิดค่ะ

มุมที่น่ารักที่สุดของพี่พีท?

แก้มบุ๋ม กล่าวว่า มุมที่อ่อนโยนของเขาค่ะ เพราะว่าเขาจะเป็นคนที่อ่อนโยน มุมอ่อนโยนที่ดูน่ารัก คือเราต้องเข้าใจนะว่าด้วยความที่เขาเป็นผู้บริหารท่านหนึ่ง และคนที่มีอยู่แบบที่เขาต้องดูแลเยอะมาก ในมุมที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น แต่เราเห็นในมุมที่เขาอ่อนโยน มันเป็นมุมที่มันดูน่ารักอะไรแบบนี้สำหรับเรา แล้วก็มุมอีกอย่างที่หนูชอบมากอีกอย่างหนึ่งคือ เขาเป็นคนง่ายๆ แต่ว่าชีวิตการเป็นอยู่ของเขา มักจะพาเราไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง หรือเป็นร้านประจำที่เขาเคยกินตอนเรียน  มันเป็นมุมน่ารักที่เขาก็ไม่ได้คิดหรอกว่าเขาจะไปทำแบบนั้น บางทีเขาลุยกว่าเราอีก เพราะเรารู้สึกว่าเราลำบากเยอะแล้ว อีกอย่างก็คือ ต่อให้ลำบากเขาก็ไม่เหวี่ยง ไม่วีน วีนอย่างเดียวคือ ตอนหิวอย่างเดียวที่จะทำให้พี่พีทหงุดหงิดก็คือตอนหิว ที่เหลือก็ไม่มีปัญหาค่ะ

ถ้าขอพี่พีทได้ 1 อย่าง อยากขออะไร?

แก้มบุ๋ม กล่าวว่า ไม่ขออะไรค่ะ เพราะว่าเขาก็เป็นของเขาดีอยู่แล้ว เขาน่าจะขอหนูเยอะมากกว่า

พี่พีทอยากขออะไรแก้มบุ๋ม?

พี่พีท กล่าวว่า ถ้าเราได้มาอยู่ด้วยกัน ให้หนูเอาใจเขาให้เยอะๆหน่อยนะ พูดเพราะๆ แค่นั้นเลยครับ

แผนฮันนีมูน?

พี่พีท กล่าวว่า ต้องบอกก่อนเลยว่า จริงๆแล้วผมไม่ได้คิดไว้เลย แผนแต่งงานผมคิดว่าเป็นปีหน้า เนื่องจากว่ามันต้องเตรียมตัวอะไรหลายๆ อย่าง ทีนี้แผนฮันนีมูนเรายังไม่เคยคุยกันเลยครับ เพราะว่าเราเพิ่งขอแต่งงาน จะคุยแผนฮันนีมูนก่อนขอแต่งงานไม่ได้ก็เลยยังไม่เคยได้คุยกัน ผมว่าจริงๆแผนฮันนีมูนก็น่าจะเป็นประเทศที่เขาชอบ แต่ยังไม่ได้มีแผนแบบเป็นทางการครับ

วางแผนมีทายาทเมื่อไหร่?

พี่พีท กล่าวว่า เขาบอกว่าอยากใช้ชีวิตสักหนึ่งปีก่อน เพราะชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้มีโมเมนต์ว่าแบบมีแฟนแบบว่าอยู่ด้วยกัน ก็เลยรู้สึกว่าอยากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันก่อน สักปีหนึ่งให้รู้สึกว่าชีวิตมันไม่ได้ขาดหาย เพราะว่าอย่างเรื่องไปเที่ยวหรือทำงาน เรารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ขาด เพราะว่าตัวเราเองไม่ได้ชอบออกไปสังสรรค์อะไรแบบนั้นอยู่แล้ว ชอบอยู่บ้านและมีความสุขกับการอยู่บ้านไม่ค่อยออกไปไหน แต่สิ่งที่ขาดมันจะเป็นแค่การใช้ชีวิตกับใครสักคน 

มันก็โอเค ตรงที่พอเราวางแผน คือบ้านมันคงต้องสร้างแล้วใช้เวลาระยะเวลาเป็นปี ทีนี้ช่วงที่ผมว่าบ้านอาจจะเสร็จหรือไม่เสร็จเนี้ย การมาใช้ชีวิตด้วยกันก่อน มันก็คล่องตัวโดยที่ยังไม่มีลูกครับ เพราะถ้ามีลูกต้องมีบ้าน ตอนแรกผมอยากได้อย่างมากคนเดียวครับ

เรือนหอ?

พี่พีท กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คุยกันตอนที่จะขอแต่งงานนานมาก เพราะผมรู้ว่าความต้องการเขามันแปลก ก็คือว่า 'บ้านปัจจุบัน' ถ้าใครเคยดูคลิปที่มีเปิดบ้านเขาผ่านหูผ่านตาบ้างครับ บ้านน้องบุ๋มของเยอะมาก 

อย่างแรกเลยคือ ทำยังไงให้บ้านเขาสามารถใช้ฟังก์ชันที่เขาใช้อยู่ได้ก็คือ การขายของ ประกอบธุระกิจที่เขาทำอยู่แล้วมันไม่รก บ้านที่ออกแบบเพื่อแก้มบุ๋มโดยเฉพาะ ผมจะมีห้องไลฟ์ให้เขาซึ่งมันใหญ่มากขนาดครึ่งบ้านนั้นก็คือห้องไลฟ์ให้เขาครับ น่าจะเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน แล้วรองลงมาก็จะมีห้องเลี้ยงสัตว์ ห้องเลี้ยงหมา ห้องเลี้ยงแมวของเขาเลย เพราะว่าหมาของเขาตัวเล็กก็เลยไม่ต้องใหญ่มาก แต่ความพิเศษบ้านคือห้องไลฟ์ผมใหจัดเต็มจริงๆ แล้วเวลาที่เขาแพ็คของส่ง ทุกวันนี้เขาต้องก้มๆเงยๆ ผมเลยคิดว่าโซนที่ไว้แพ็คของมันควรเป็นระบบ เพื่อที่จะได้เซฟสุขภาพเขาด้วย เดี๋ยวถ้ามันออกมาเป็นรูปเป็นร่างทุกคนก็จะได้เห็นครับ

แต่งตัวให้กันไหม?

แก้มบุ๋ม กล่าวว่า ไม่ค่ะ เพราะว่าพี่พีทไม่มีใครบังคับเขาได้ค่ะ ถ้าเขาไม่อยากทำ จนเรารู้สึกว่าเขาอยากทำอะไรก็ทำ แต่สำหรับเรา เขาชอบให้หนูเป็นอย่างงู้น เขาชอบให้หนูเป็นอย่างงี้  สรุปก็คือเขามีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง มีความชอบเป็นของตัวเอง แล้วก็ถ้าเขาชอบแบบไหนเขาก็ใส่ตามที่เขาต้องการค่ะ

ธุรกิจในอนาคต?

พีพี่ท กล่าวว่า ก็มีเรื่องบริษัทที่ทำคอนเท้น ก็จริงๆท่ทำด้วยกันชัดเจนคือทำ ยูทูป(Youtube) ด้วยกัน แล้วก็มีแผนว่าจะทำพวกเครื่องสำอาง แล้วก็ในอนาคตที่เคยคุยกันไว้ ผมว่ามันยังไม่เป็นรูปเป็นร่างขนาดที่สรุปได้คือโรงพยาบาลสัตว์  เขาอยากทำโรงพยาบาลสัตว์ตั้งแต่เด็ก ผมก็อยากจะทำให้มันสำเร็จนะ ก็น่าจะได้เห็นครับ ขอเวลาอีกหน่อยก็มีคุยๆไว้บ้างนะโปรเจค แต่ว่ามันต้องใช้ทรัพยากรหลายอย่าง ผมก็คิดว่า "ถ้าเปิดแล้วต้องดี มันต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ" ประมาณนั้นครับ

อะไรที่รู้สึกว่า "แก้มบุ๋ม" ใช่แล้วคนนี้?

พี่พีท กล่าวว่า จริงๆแล้วครับผมมีความรู้สึกว่า เราอยู่กับใครสักคนหนึ่งเราต้องสบายใจ หมายความว่า เราต้องมีความรู้สึกตรงนี้เป็นเซฟโซนของเรา การที่เราอยู่กับคนๆนี้แล้วสบายใจขึ้น ไม่ว่ามาด้วยสภาพอารมณ์แบบไหน การที่ได้มาเจอเขามันต้องทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าช่วงไหนหรือผมยุ่งแค่ไหนก็ตามครับ ผมก็คิดว่าการมาเจอเขาเนี่ย มันเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ มีความสุขมากขึ้นกับสถานณ์ที่เจออยู่กับสภาพอารมณณ์ที่ตัวเองเป็นอยู่ปรมาณนี้ครับ ก็เลยรู้สึกว่าเขาน่าจะอยู่กับผมได้ ประกอบกับเราไม่เคยทะเลาะกันเลย พอเราจูนเข้าหากันแล้วเราอยู่ด้วยกัน มันทำให้ผมมั่นใจว่าคนๆ นี้ผมอยู่กับเราได้ทั้งชีวิต เพราะว่าเราอยู่กันมาปีนี้ เข้าปีที่5 ครับ แล้วก็มีความรู้สึกว่า เราแทบไม่เคยทะเลาะแล้วการมาเจอกันทุกครั้งมันมาเติมเต็มชีวิตของแต่ละฝ่ายให้ดีมากขึ้น นั่นแหละผมว่ามันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องเป็นคนนี้ครับ