"เอกชัย" รอดคุก!ศาลยกฟ้องคดีขัดขวางขบวนเสด็จฯ -ไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า- พวกจำเลยคิดว่าตำรวจกำลังเข้าสลายการชุมนุม– ไม่มีเจตนา ประทุษร้ายขัดขวางขบวนเสด็จ
ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีแสดงความอาฆาตมาดร้าย หมายเลขดำ อ.778/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง, นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง, นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ, นายชนาธิป ชัยยะยางกูร และนายภาณุภัทร ไผ่เกาะ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับความผิดฐาน แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน และ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ
อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ต ค.2563 จำเลยทั้งห้า กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยพวกจำเลยทั้งห้ากับพวกจำนวนหลายร้อยคนได้ลงมายืนบนพื้นผิวจราจรบนถนนพิษณุโลก ลักษณะกีดขวางการจรจรซึ่งได้กำหนดใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระราชินี และพระบรมศานุวงศ์ เพื่อไปทรงบำเพ็ญกุศล ถวายผ้าพระกฐินประจำปี พ.ศ.2563 ณ วัดราชโอรสาราม ซึ่งมีรถรถยนต์บก.จร. และรถยนต์ในขบวนเสด็จฯ ขับเบิกทาง โดยจำเลยกับพวก ซึ่งมาร่วมกิจกรรมชุมนุม "เพราะเราทุกคนคือคณะราษฎร และคณะราษฎรยังไม่ตาย" ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้บังอาจร่วมกันประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินีโดยช่วยกันใช้กำลังผลักดันแถวแนวหน้าเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) เพื่อขัดขวางมิให้ขบวนเสด็จฯ สามารถเคลื่อนผ่านไปยังเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ไปแยกนางเลิ้งได้ อีกทั้งยังได้ชูสัญลักษณ์สามนิ้วใส่ขบวนเสด็จฯ อีกด้วย
โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย พวกจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
วันนี้จำเลยทุกคนเดินทางมาศาล ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเเล้วเห็นว่าในพื้นที่ดังกล่าวที่จะมีขบวนเสด็จฯ ไม่มีการประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนให้ทราบล่วงหน้าว่าเป็นเส้นทางเสด็จเเละพฤติการณ์ของจำเลยที่ปรากฏยังไม่เป็นเป็นการแสดงความประทุษร้าย พิพากษายกฟ้องจำเลยกับพวกทุกข้อหา
ศาลพิเคราะห์ คำเบิกความและพยานหลักฐานที่ทั้ง2 ฝ่ายนำสืบหักล้างเห็นว่า ช่วงวันเกิดเหตุ มีกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวนมากมาที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขณะที่ขบวนเสด็จ ใช้เส้นทาง โดยไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ซึ่งเป็นความลับ ทำให้การรับรู้ของประชาชนไม่เท่ากันรวมทั้งจำเลยทั้งห้าด้วย โดยมีตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.) ตั้งแถวหน้ากระดาน หลายชั้น เพื่อขอใช้เป็นเส้นทางเสด็จ และมีขบวนรถวิ่งเบิกทาง
ขณะที่พวกจำเลยและผู้ชุมนุมเข้าใจกันว่า ตำรวจควบคุมฝูงชนจะเข้ามาสลายการชุมนุม จึงบอกให้ผู้ชุมนุมบางส่วน นั่งขวางกลางถนนเพื่อป้องกันการรุกคืบของเจ้าหน้าที่ และเมื่อรถยนต์พระที่นั่ง และขบวนเสด็จผ่านไป พวกจำเลยบางส่วนได้ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว และโห่ร้อง โดยไม่มีใครปาสิ่งของใส่รถยนต์พระที่นั่ง พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่า พวกจำเลยมีเจตนา ประทุษร้ายขัดขวางขบวนเสด็จ พวกจำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังนายเอกชัย หงส์กังวาล กล่าวขอบคุณศาล เพราะตนเชื่อว่าศาลมีความยุติธรรมอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะมีคนส่วนใหญ่บอกว่าศาลไม่มีความโปร่งใส และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ตนคิดถูก
ด้านนายบุญเกื้อหนุน เป้าทองได้กล่าวขอบคุณพิพากษาทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา