กรมชลประทานเผย ปริมาณน้ำสูงสุดมาถึงใจกลางหาดใหญ่ แล้ว ระดับน้ำเริ่มทรงตัว ลดลงเล็กน้อย ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากไม่มีฝนตกหนัก น้ำจะเข้าสู่ระดับตลิ่ง 27 พ.ย.
นายธเนศ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยากล่าวว่า น้ำจากอำเภอสะเดาไหลมาถึงใจกลางนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาแล้ว ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ปริมาณน้ำสูงสุดได้ผ่านพ้นไป ระดับน้ำจึงทรงตัวและเริ่มลดลงชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า วันนี้และพรุ่งนี้จะยังมีฝนต่อเนื่อง แต่ปริมาณฝนไม่มากเท่าสัปดาห์ที่แล้ว หลังวันที่ 26 พฤศจิกายน ฝนจะลดลง หากไม่มีฝนตกหนักในลุ่มน้ำอู่ตะเภา ระดับน้ำในเทศบาลนครหาดใหญ่จะเข้าสู่ระดับตลิ่งในวันที่ 27 พ.ย.นี้เมื่อระดับน้ำเข้าสู่ลำน้ำ จะสามารถนำเครื่องสูบน้ำติดตั้งริมลำน้ำและคลองระบายน้ำต่างๆ ได้ซึ่งเตรียมไว้แล้ว พร้อมติดตั้งทันทีที่น้ำลดลงเท่าระดับตลิ่ง สำหรับใช้สูบน้ำที่ท่วมขังออก โดยคาดว่า สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 สัปดาห์
สำหรับปริมาณฝน 24 ชั่วโมงล่าสุด (24–25 พฤศจิกายน 2568) พบฝนตกหนักที่สุด 3 อันดับในพื้นที่ภาคใต้ได้แก่
- อำเภอทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ปริมาณฝน 634 มม.
- อำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา ปริมาณฝน 538.0 มม.
- อำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา ปริมาณฝน 504.8 มม.
อุปสรรคในการระบายน้ำขณะนี้คือ ในหลายพื้นที่ ฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วมคลองระบายน้ำของกรมชลประทาน ประกอบกับคลื่นลมแรงและน้ำทะเลหนุนสูง แต่คลื่นลมเริ่มลดความแรง น้ำทะเลไม่หนุนสูงเท่าช่วงก่อนหน้า การระบายน้ำเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ดังเช่นคลองร. 1 น้ำไหลออกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ขอเตือนประชาชนว่า ในช่วงที่น้ำระบายได้ดี กระแสน้ำจะไหลแรงจึงต้องระวังอันตรายด้วย
ทั้งนี้กรมชลประทาน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบูรณาการข้อมูลร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการประเมินสถานการณ์ร่วมกัน เพื่อหาทางออกในการระบายน้ำให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังได้เร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดอยู่ตามบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ รวมทั้ง นำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่ายให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และทันทีที่ระดับน้ำที่ล้นตลิ่งกลับสู่ลำน้ำ จะเร่งสูบน้ำและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อเร่งบรรเทาผลกระทบให้มากที่สุด
