"อนุทิน" ลงพื้นที่นครพนม มอบนโยบายขับเคลื่อนภารกิจบำบัดทุกข์ บำรุงสุข – พักหนี้ ฟื้นเศรษฐกิจ แจ้ง "คนละครึ่งพลัส" ผ่าน ครม.แล้ว ฝากผู้นำท้องถิ่นท้องที่แจ้งลูกบ้านรีบลงทะเบียน
เวลา 16.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม มอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลแก่ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ณ โรงเรียนเซนต์ยอแซฟนครพนม (สันตยานันท์) อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินนำคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยร่วมติดตาม ได้แก่ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี, นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร, นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมและจังหวัด โดยมี นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนกว่า 1,500 คน เข้าร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเดินทางมานครพนมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญ เพราะจังหวัดนครพนมเป็นเจ้าภาพจัด “มหกรรมไหลเรือไฟโลก จังหวัดนครพนม ประจำปี 2568” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอีสานอันงดงาม สร้างความคึกคักทางเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ
นายอนุทินกล่าวด้วยว่า ตนมีความผูกพันกับจังหวัดนครพนมมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่อำเภอศรีสงคราม พบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องเข้ารับการฟอกไต จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ริเริ่ม “โครงการฟอกไตฟรีทั่วประเทศ” ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นที่จังหวัดนครพนมแห่งนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจเพื่อประชาชน โดยขอให้ผู้นำท้องถิ่นช่วยประชาสัมพันธ์ “โครงการคนละครึ่งพลัส” ที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ให้ประชาชนเตรียมลงทะเบียนรับสิทธิ์ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในท้องถิ่นและสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมระบุว่ารัฐบาลจะเร่งดำเนินมาตรการ พักหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับผู้มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท รวมถึงเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อสร้างรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ
นายอนุทินย้ำแนวคิดการทำงานภาครัฐว่า “ขอให้ทุกคนจดจำคำว่า Proud to Serv ซึ่งหมายถึงความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้บริการประชาชน เพราะพวกเราทุกคนไม่ใช่ผู้ปกครอง แต่เป็นผู้ให้บริการ เมื่อประชาชนมีความสุข เราก็มีความสุขเช่นกัน”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวสร้างบรรยากาศอบอุ่น ด้วยการเล่าความทรงจำวัยเด็กเกี่ยวกับ พระธาตุพนม ว่า “ตอนอายุประมาณ 10 ขวบ พระธาตุพนมล้ม ผมดูข่าวทางทีวีช่อง 7 เขาเชิญชวนให้ร่วมบริจาค ผมก็ไปแคะกระปุกบริจาค 2,000 บาท ได้รับพระธาตุพนมจำลอง ซึ่งยังอยู่ที่บ้านจนถึงทุกวันนี้ ถือเป็นความผูกพันระหว่างผมกับนครพนม”
ทั้งนี้ นายอนุทินยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการเมืองกับพื้นที่นครพนม โดยระบุว่า ที่นี่คือพื้นที่แรกที่ให้กำเนิดนโยบายหลายอย่างของพรรคภูมิใจไทย และยังมีผู้แทนจากพรรคทำงานใกล้ชิดประชาชน เช่น นายศุภชัย โพธิ์สุ นายอลงกต มณีกาศ และนายชูกัน กุลวงศา พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าทีมงานภูมิใจไทยจะร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีได้ร่วมร้องเพลง “หากว่าเรากำลังสบาย” สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน
ก่อนเดินทางกลับ นายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม 7 สมัย ได้มอบ เหรียญพญาศรีสัตตนาคราช 7 เศียร รุ่นที่ 1 แก่นายกรัฐมนตรี พร้อมอวยพรให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย และให้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับหนึ่งทั่วประเทศ
สำหรับภารกิจในจังหวัดนครพนมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเดินทางโดยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน ขง 8889 กรุงเทพมหานคร