IOT ลงพื้นที่สายตะกู บุรีรัมย์ ชมไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ให้ข้อมูลจริง

IOT ลงพื้นที่สายตะกู บุรีรัมย์ ชมไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ให้ข้อมูลจริง
คณะ IOT ลงพื้นที่ช่องสายตะกู บุรีรัมย์ รับฟังข้อเท็จจริงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ชื่นชม กองทัพบกไทย ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ไม่เสริมอาวุธ-กำลัง รวมทั้งไม่มีการให้ข้อมูลเท็จ

กองทัพไทย และกองทัพภาคที่ 2 นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) จำนวน 3 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวม 4 นาย นำโดย พลจัตวาซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Pol. Col. Samsul Rizal Bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมเชลยศึก อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งจุดนี้ไม่ได้อนุญาตให้สืบมวลชนเข้าไปทำข่าว

จากนั้นเดินทางต่อไปพื้นที่ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ในบริเวณรั้วชายแดน ใกล้แนวเส้นปฏิบัติการและจุดที่มีการละเมิด ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานในพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 (กองกำลังสุรนารี) ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี รวมทั้งรับทราบข้อเท็จจริงปัญหาในพื้นที่ ตามบันทึกข้อตกลงจากผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา 

ทันทีที่คณะ IOT ถึงช่องสายตะกู ได้รับฟังรายงานสถานการณ์ต่างๆ แนวการปะทะ และการวางจุดวิถีของทหารไทย รวมทั้งดูจุดที่ตั้งของสายตะกูรีสอร์ทและกาสิโน ที่อยู่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา 

พลจัตวาซัมซุล เผย หลังจากที่ได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์  โดยมี ผู้กองอะตอม ร้อยเอกหญิง ปวิชญา วลีสุขสันต์ ผู้ช่วยโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนายทหารล่าม เป็นคนแปล ว่า ภายใต้การดูแลของกองทัพภาคที่สอง สิ่งที่มีความสำคัญคือ การเสริมสร้างและการใช้ความร่วมมือทวิภาคีที่ตกลงในการประชุม GBC RBC JBC แต่จะต้องมีความจริงใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัน การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อลดความตึงเครียด หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ให้การตกลงหยุดยิงเกิดผล คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของทั้งสองประเทศต้องลงพื้นที่ตรวจสอบและสังเกตการณ์การปฎิบัติการ IOT หวังไปเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุม JBC จะเกิดขึ้นโดยเร็ว 

ส่วนของการรายงานความคืบหน้า คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวฝั่งไทยและกัมพูชา ได้ลงพื้นที่ยืนยันและส่งรายงานกลับไปยังกองบัญชาการ และเมื่อกองบัญชาการได้รับรายงาน จะนำรายงานดังกล่าวเรียนไปให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม จะรายงานไปยังผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทยและกัมพูชา เพื่อเสนอแนะว่าควรทำอย่างไรและไม่ควรทำอะไรบ้าง เพื่อจะคงไว้ในความมั่นคง คงไว้ซึ่งการหยุดยิง 

สำหรับการลงพื้นที่ร่วมกันของ IOT ทั้งสองฝ่าย ยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่ได้มีการพูดคุยกันตลอดว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทั้งสองฝ่ายมีการประสานงานร่วมกัน เป้าหมายของเรา เพื่อสังเกตการณ์และตรวจสอบพื้นที่จริง เมื่อได้ข้อเท็จจริงและการยืนยันก็จะรายงานกลับไป 

“ประเด็นสำคัญคือคุณภาพในการลงพื้นที่ มีค่ามากกว่าลงพื้นที่บ่อย ไม่บ่อย วันนี้การลงพื้นที่เราทราบข้อมูลจากทหารแนวหน้า ขอชื่นชมกองทัพบกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี ไทยปฎิบัติโดยไม่ให้ข้อมูลเท็จและไม่มีการใช้อาวุธเพิ่มเติม ไม่มีการเสริมกำลังและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง”

ดังนั้น เราได้เน้นย้ำคือการรักษาไว้ซึ่งความอาชีพ ตั้งแต่ระดับทหารจนถึงผู้บังคับบัญชา เพื่อให้การปฏิบัติการหยุดยิงเป็นไปตามที่ตกลงไว้ รวมถึงปฏิบัติการปะทะ 

“พวกเราคือหนึ่งในประเทศอาเซียน เราปฏิบัติตามแนวทางอาเซียน และอาเซียนเชื่อในความร่วมมือทวิภาคี พวกเราคือครอบครัว เราไม่ต้องการที่จะอวดเก่งกับใคร ขอบคุณทุกคนที่อดทนรอ”

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ตลอด 2 วัน ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ IOT ได้เห็นอะไรที่เป็นประโยชน์ และจะนำรายงานหรือการละเมิดของฝั่งกัมพูชาอย่างไร พลจัตวาซัมซุล เผยว่า การลงพื้นที่ทั้ง 2 วัน ทหารไทยยังอยู่ในที่มั่น ไม่ได้เสริมกำลังปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่คุยกันในที่ประชุม

การลงพื้นที่แต่ละครั้งต้องใช้เวลานานขนาดไหนจึงส่งเรื่องไปถึงผู้บัญชาการ พลจัตวาซัมซุล เผยว่า ลงพื้นที่เสร็จคณะ IOT จะส่งรายงานกลับไปยังกองบัญชาการทุกวัน ทุกสัปดาห์ และทุกเดือน ลงพื้นที่ปุ๊บทำปั๊บ

พลจัตวาซัมซุล ได้ขอบคุณสื่อฯที่รอสัมภาษณ์ ว่า อาวุธของสื่อมวลชนทุกคนคือกล้อง ท่านทำหน้าที่ได้อย่างดี ขอบคุณสำหรับความร่วมมือทุกอย่าง คณะผู้สังเกตการณ์ IOT และสื่อมวลชนยังคงรอผลการประชุม GBC JBC เชื่อมั่นว่า 2 ประเทศ ต้องการให้สันติภาพเกิดขึ้น

TAGS: #IOT #กัมพูชา #ไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง