คณะผู้แทนไทยร่วมประชุมใหญ่ AIPA ที่กัวลาลัมเปอร์ ดันข้อเสนอฝ่ายไทยสำเร็จ ข้อเรียกร้องจากกัมพูชาที่หวังยกประเด็นขัดแย้งชายแดนถูกตัดออก ขณะที่ ส.ส.รังสิมันต์เตือนการนำเรื่องขึ้น AIPAอาจซ้ำรอยทางการเมือง
ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ในการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA ครั้งที่ 46 กล่าวถึงเวทีการประชุมคณะกรรมการบริหารของประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ว่าที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบการประชุมต่อจากครั้งที่ผ่านมา แต่ มีประเด็นใหม่ที่เพิ่มจากประเทศกัมพูชาที่พยายามเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาต่อที่ประชุม AIPA ในส่วนนี้ทางคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเห็นว่าเวที AIPA ไม่ใช่เวทีคู่ขัดแย้ง ที่ต้องมาเจรจาให้เพื่อนประเทศสมาชิกลำบากใจ ซึ่งหลายประเทศให้การสนับสนุนว่าเวที AIPA ควรเป็นเวทีเพื่อความสร้างสรรค์มากกว่าการจับคู่เจรจา ที่ประชุมจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายไทยข้อเสนอ จากฝั่งของกัมพูชาจึงตกไป
“วันนี้จึงเป็นที่พึงพอใจของว่าทีมไทยแลนด์ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจไม่เสียชื่อทีมไทยแลนด์“ นายฉลาด กล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้แทนไทย ยังได้เข้าร่วมประชุม ถึง3คณะ ประกอบด้วยการประชุมผู้นำทางการเมืองสตรี ครั้งที่ 2 ซึ่งมี นางสาวภัสริน รามวงศ์ สส. และ ศาสตราจารย์ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ สว. เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม
การหารือระหว่างสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) อาเซียนครั้งที่ 4 ซึ่งมี นายชัยวัฒน์ สถาววิจิตร สส. , นายรังสิมันต์ โรม สส. และ นายธนกร ถาวรชินโชติ สว. เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม และ การอภิปรายโต๊ะกลม YPA เยาวชนนักเปลี่ยนแปลงสังคม โดยมี นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ และ สส.และนายชลัฐ รัชกิจปราการ สส. เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม
"รังสิมันต์" เบรค "กัมพูชา" กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน
ขณะเดียวกันนายรังสิมันต์ ได้กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น
ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ กัมพูชา ควรจะราบรื่นผ่านเวนที่ GBC ซึ่งการหยิบยกมาพูดคุยอีกครั้งบนเวที AIPA ซึ่งเป็นเวทีพหุภาคีจะเป็นการทำให้เกิดประเด็นการเมือง และการแก้ปัญหาตามแนวชายแดนทำได้ยากยิ่งขึ้น
นายรังสิมันต์ยัง กล่าวว่าคณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้เน้นย้ำต่อที่ประชุม AIPA ว่าหากต้องการให้เปิด
ด่านชายแดน กัมพูชาต้องเดินหน้าใน 3 เรื่องเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นคือ
1.การนำอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน
2.การจัดการทุ่นระเบิด
3.การจัดการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์