29 ม.ค.-6 ก.พ. 2566 ชวนสายมูฯเที่ยวงานนมัสการองค์พระธาตุพนม

29 ม.ค.-6 ก.พ. 2566   ชวนสายมูฯเที่ยวงานนมัสการองค์พระธาตุพนม
งานใหญ่ประจำปีของจังหวัดนครพนม ‘งานนมัสการองค์พระธาตุพนม’ ที่ชาวพุทธศาสนิกชน และเหล่าสายมูเตลู ไม่ควรพลาดหากว่าใครได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดนครพนมช่วงระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-6 ก.พ. 2566 นี้

‘งานนมัสการองค์พระธาตุพนม’ เป็นอีเวนต์ประเพณีประจำจังหวัดนครพนม เพื่อสืบสานงานบุญประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดนครพนมและพุทธศาสนิกชน ถือปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน

 

งานฯ จัดขึ้นในช่วงวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ไปจนถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี รวม 9 วัน 9 คืน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและองค์พระธาตุพนม ซึ่งเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้

 

พระธาตุพนม ศาสนสถานคู่บ้านคู่เมือง

 

ก่อนที่ไปจะไปสักการะพระธาตุพนมกัน เรามาดูตำนานของพระธาตุพนมกันก่อนดีกว่า ว่ามีที่มาและความสำคัญอย่างไร

 

สำหรับ พระธาตุพนม เป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ด้วยพระบรมธาตุแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่สมัยอดีตสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธกาลประมาณ พ.ศ.๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้า ริมฝั่งโขง ด้วยเชื่อกันว่า เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อยโหญ่

 

ตามตํานานอุรังคธาตุ กล่าวถึง พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นําพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากชมพูทวีปและท้าวพญาผู้ครองนครทั้ง ๕ เป็นประธาน ในการสร้างที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุพนมในปัจจุบัน

 

ปัจจุบัน พระธาตุพนม มีพุทธศาสนิกชนมาเยี่ยมเยียนจากทั่วสารทิศทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง ด้วยสืบต่อความเชื่อกันมาจากบรรพบุรุษ ว่ากันว่าหากใครได้มานมัสการพระธาตุครบ ๗ ครั้ง จะถือว่าเป็น ‘ลูกพระธาตุ’  เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม สักครั้งถือเป็นอานิสงส์ผลบุญยิ่งนัก

 

พระธาตุประจำวันเกิดอาทิตย์-ปีวอก

 

นอกจากนี้ พระธาตุพนมยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีนักษัตร แห่งเดียวบนแผ่นดินที่ราบสูง และยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

 

ตามตำนานบริเวณที่ตั้งของพระธาตุพนมในอดีตเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าได้ขึ้นมาหมุน แล้วมองลงไปรอบๆ ก่อนจะประกาศก้อง ว่า พื้นที่ทั่วบริเวณนี้จะเป็นที่สืบทอดและเป็นจุดเริ่มต้นพระพุทธศาสนา เสมือนกับวันอาทิตย์เป็นวันเริ่มต้นของวันอื่นในสัปดาห์

 

ทั้งตั้งพัน ไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศประจำของ “พระราหุล” และยังเป็นองค์เจดีย์ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินอีสาน ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะ ของเทวดาประจำวันอาทิตย์ที่มีพละกำลังที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่หนึ่งเหนือผู้อื่น

 

การบูชา-คำกล่าวนมัสการ

 

สำหรับชาวพุทธศาสนิกชน ที่ได้โอกาสมาเยือนพระธาตุพนม สามารถบูชาองค์พระธาตุ ด้วยการนำข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปั้น ดอกไม้สีแดง ธูป 5ดอก เทียน 2เล่ม

 

พร้อมกล่าวคำนมัสการ

 

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3จบ)

ปริมายะ ทักขิณายะ ปัจนิมายะ อุตตะรายะ เหฏฐิมายะ

อุปะมายะ หิสายะ กะปะนะศิริสะมิง ปัพพะเต

มหากัสสะ เปนะ ฐาปิตัง พุทธะอุรังคะธาตุง สิระสา นะมามิฯ

 

ด้วยอานิสงส์แห่งการบูชา นมัสการองค์พระธาตุพนม นี้ยังเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตให้เป็นผู้มีบารมี จะทำให้ผู้คนเคารพนับถือมาก

 

สำหรับ การเดินทางมายังพระธาตุพนม อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 53 กิโลเมตร มาตามทางหลวงหมายเลข 22 หรือ โทรศัพท์ไปยังเลขหมาย 042 541 050

 

ภาพ - เว็บไซต์จังหวัดนครพนม 

TAGS: #พระธาตุพนม #นมัสการพระธาตุพนม #พระธาตุประจำปีเกิด