“กระทรวงการต่างประเทศ” เดินเกมเร็ว ป้องกัน“กัมพูชา” เบี้ยวสัญญา GBC เดินหน้าคุย “เยอรมนี - กรีซ ” แจงยิบข้อตกลงหยุดยิง
นายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงเอเธนส์ ได้พบนาย Spyridon Voulgaris อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศกรีซ เพื่อให้ข้อเท็จจริง พร้อมมอบเอกสารแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยปัจจุบันกรีซเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้ง ซึ่งฝ่ายไทยได้พยายามใช้สันติวิธีและความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มโจมตีไทยอย่างไม่เลือกเป้าหมาย นำไปสู่การสูญเสียชีวิตของพลเรือน และความเสียหายต่อสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลและโรงเรียน ทำให้ไทยต้องใช้สิทธิในการตอบโต้ โดยไทยมุ่งเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเท่านั้น
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ยืนยันว่าไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 อย่างเคร่งครัด และพร้อมเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างยั่งยืนในกรอบกลไกทวิภาคีที่มีอยู่แล้วระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งถึงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ด้วย
อธิบดีกรมเอเชียฯ ได้ขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ สำหรับข้อมูล และยินดีที่ได้รับทราบพัฒนาการที่ดีจากการประชุม GBC สมัยวิสามัญ พร้อมกล่าวสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายใช้กลไกต่างๆ ที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับกรีซ และไทยกับสหภาพยุโรปอีกด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ พบหารือกับ นาย Frank Hartmann อธิบดี กรมเอเชีย-แปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี เพื่อ update สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามสภาพความเป็นจริง และย้ำจุดยืนของไทยในการยึดมั่นต่อการส่งเสริมสันติภาพกับกัมพูชา และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งผ่านกลไกทวิภาคี การใช้มาตรการทางการทหารของไทยเป็นการตอบโต้การโจมตีต่อพลเรือนและปกป้องอธิปไตยของประเทศตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และไทยยึดมั่นการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และผลการประชุม General Border Committee (GBC) ล่าสุด ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์อย่างจริงจัง เพื่อความสงบสุขของประชาชนและสันติภาพที่ยั่งยืน
