“สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 

“สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 
“สภาฯ” แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของทหารและประชาชนจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา  เสนอรัฐบาลช่วยเหลือ-เพิ่มเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อม ยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ เปิดให้ ส.ส.นำปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่เข้าหารือ โดย สส.ต่างแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของทหารและประชาชนจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งหารือถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายศักดิ์ดา วิเชียรศลิป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา เช่นเดียวกับผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้มากกว่าถึง 7 เท่า เพื่อให้ประชาชนมีเงินใช้ในการดำรงชีวิตและซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน

เช่นเดียวกับ นายปรเมษฐ์ จินา ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สนับสนุนให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มเงินเยียวยาให้กับครอบครัวทหารที่เสียชีวิตและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า จากสถานการณ์ชายแดนมีประชาชนหลายคนไม่อพยพออกไปพื้นที่ปลอดภัย เพราะห่วงสัตย์เลี้ยง เช่น โค กระบือ โดยขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้ในส่วนนี้ รวมถึงขอให้สำนักงานประกันสังคมพิจารณาชะลอการจ่ายเงินสมทบให้กับผู้ประกอบการและแรงงานในพื้นที่ที่สบภัยสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา

ด้านนางวิลดา อินฉัตร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและเร่งเบิกจ่ายเงินเพื่อใช้ดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยสู้รบชายแดนไทยกัมพูชาอย่างรวดเร็ว รวมถึงขอบคุณทุกภาคส่วนที่บริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ชายแดน

ขณะที่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือถึงปัญหาการสู้รบชายแดนไทย กัมพูชา ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ที่เกิดเหตุรุนแรงการสู่รบในหลายจังหวัด ซึ่ง จังหวัดที่โดนรุนแรงมากที่สุดคือ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเพราะมีประสาทต่างๆแและอันดับสองคือจังหวัดศรีสะเกษซึ่งมีหลายมิติ แต่มิติแรกที่จบไปโดยตัวมันเองว่าทหารมีไว้ทำไม ถ้าไม่มีทหารไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตนด้วย เพระายุทธวิธีในวันนั้นเห็นได้ชัด ก่อนที่จะชะลอการหยุดยิง เพราะตนยังไม่เชื่อว่าจะยุติโดยสิ้นเชิง เพราะตนอยู่ในพื้นที่ แต่ทหารเรามีความกล้าหาญและมียุทธวิธีที่ดีประคับประคองคิดพื้นที่ไม่ให้พี่น้องเราเดือดร้อนไปมากกว่านี้

“เสียใจกับ 15 วีรบุรุษ จึงขอฝากทางราชการว่าอะไรที่มอบให้เขาได้ใหญ่ก็มอบให้เถอะไม่ว่าจะเป็นการชดเชยให้กับครอบครัว หรือเพิ่มยศให้กับเขาให้โอกาสลูกของเขา ผมเกิดมาก็เพิ่งเห็นเที่ยวนี้ว่าเอฟ 16 และกริบเพน ไปช่วยเหลือพี่น้องเรา แต่สิ่งที่เกิดกับประชาชนที่ต้องไปอยู่ในศูนย์อพยพ จังหวัดสุรินทร์มีถึง 4 ศูนย์ใหญ่ๆ ซึ่งไม่ได้อยู่ที่ศูนย์พักพิงตามโรงเรียนอย่างเดียว ยังมีตามวัดด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็ไปดูแลอย่างดี แต่ไมได้ดูเรื่องยาอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต เป็นโรคจิตตก โรคซึมเศร้า บางศูนย์ที่ผมไปนั่งเฝ้า ผู้อพยพกินข้าวไม่ลง ต้องกินกาแฟแทนข้าว เพราะคิดถึงบ้าน วัว ควาย” นายครูมานิตย์ กล่าว

นายครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นสิ่งที่อยากฝากคือผู้อพยพจะไปอยู่ที่บ้านญาติ ทำให้มีปัญหาเพิ่มขึ้นทั้งค่าน้ำค่าไฟ มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะยังไม่รู้ว่าผู้อพยพจะอยู่อีกกี่วัน จึงอยากให้ทางราชการช่วยดูแลด้วยงบประมาณที่โอนไป 100 ล้านบาทให้กับศูนย์ราชการไม่ได้ให้บ้านคนฉะนั้นอย่างน้อยๆ ค่าไฟฟ้าเดือนนี้ไม่ต้องเสีย โดยให้กำนัน สำรวจแล้วยกยอด มาเอาจากวงเงิน 100 ล้านบาท ที่กระทรวงการคลังอนุมัติ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบอกว่าพร้อมที่จะอนุมัติเพิ่มอีก

หลังหารือเสร็จสิ้นก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตามที่ได้เกิดการสู้รบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชานั้น เป็นเหตุให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในนามของสภาผู้แทนราษฎรขอส่งกำลังใจให้กับทหาร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติน้าที่ และขอแสดงความห่วงใยไปยังผู้ประสบภัยทุกคน รวมทั้งเป็นการแสดงไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต จึงขอเชิญสมาชิกทุกคนยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที

TAGS: #ประชุมสภา #ยืนไว้อาลัย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยกัมพูชา #ไทยกับกัมพูชา