สภากาชาดไทยคึกคัก ประชาชนแห่เดินทางมาร่วมบริจาคโลหิต เพื่อสำรองโลหิตสำหรับช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา
บรรยากาศที่สภากาชาดไทย เป็นไปอย่างคึกคัก หลังก่อนหน้านี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้ออกประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิต เพื่อเตรียมสำรองไว้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งขณะนี้คลังเลือดจะเพียงพอแล้วก็ตาม ยังมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงน้ำใจและความสามัคคีของคนไทย ในยามที่ชาติบ้านเมืองเผชิญวิกฤต
บรรยากาศภายในจุดบริจาค เจ้าหน้าที่สภากาชาดไทยได้จัดกำลังรองรับอย่างเต็มที่ คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำแก่ผู้บริจาคในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การกรอกเอกสาร ตรวจวัดความดัน เจาะเลือด จนถึงกระบวนการบริจาค และการพักฟื้นหลังบริจาค
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว สภากาชาดไทยได้เร่งจัดเตรียมโลหิตสำรองผ่านศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตทั่วประเทศ
สำหรับประชาชนที่มีความพร้อมสามารถร่วมบริจาคโลหิตได้ที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง ได้แก่ สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค) / เดอะมอลล์ 4 สาขา: บางแค , บางกะปิ , งามวงศ์วาน , ท่าพระ , ดิเอ็มโพเรียม และบ้านทรงไทย (วงศ์สว่าง)
โรงพยาบาลในเครือสาขาบริการโลหิต 8 แห่ง เช่น รพ.รามาธิบดี , รพ.ภูมิพลอดุลยเดช , รพ.ราชวิถี , รพ.ตำรวจ ,
ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งในจังหวัด เช่น ลพบุรี , ชลบุรี , ราชบุรี , นครราชสีมา , ขอนแก่น , อุบลราชธานี , นครสวรรค์,
พิษณุโลก , ชียงใหม่ , นครศรีธรรมราช (อ.ทุ่งสง) , สงขลา และภูเก็ต ตลอดจนโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติทั่วประเทศ
สำหรับข้อควรรู้ก่อนบริจาคโลหิต พักผ่อนอย่างน้อย 5 ชม. รับประทานอาหารมื้อหลัก หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ดื่มน้ำ 300-500 ซีซี
ก่อนและหลังบริจาค งดสูบบุหรี่ 1 ชม. งดแอลกอฮอล์ 24 ชม. ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทางเพศ และแจ้งแพทย์หากมีประวัติรับประทานยา
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนท่านใดต้องการร่วมบริจาคโลหิต สามารถเดินทางไปที่สภากาชาดไทย ได้ตั้งแต่เวลา 08.30 - 15.30 น.