ศบ.ทก.ถกด่วน! เตรียมมาตรการตอบโต้กัมพูชา "ภูมิธรรม" เรียกประชุม สมช. บ่ายนี้

 ศบ.ทก.ถกด่วน! เตรียมมาตรการตอบโต้กัมพูชา
ศบ.ทก.เปิดโต๊ะถกด่วน รับมือสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด ท่ามกลางแรงกดดันทางการทูตและเสียงเรียกร้องจากพรรคการเมือง จับตาท่าทีไทยตอบโต้กัมพูชา ผ่านกลไกการทูตและความมั่นคงระหว่างประเทศ

สถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเกิดเหตุทหารชุดลาดตระเวนกองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดบริเวณช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระตุ้นให้ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เรียกประชุมวาระเร่งด่วนทันทีในเช้าวันนี้

การประชุมมีขึ้นในเวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบ.ทก. เป็นประธาน ร่วมด้วยผู้แทนกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อหารือมาตรการตอบโต้กัมพูชา และเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจลุกลาม

ปิดจุดผ่านแดน–หยุดท่องเที่ยวแนวชายแดน

ด้าน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อควบคุมสถานการณ์และความปลอดภัยของประชาชน

"ภูมิธรรม" เรียกประชุม สมช. บ่ายนี้ – เตือนสื่ออย่าปั่นข่าวปะทะ ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อช่วงเช้า ว่า ได้รับรายงานเหตุยิงจากบริเวณใกล้ปราสาทตาเมือนธม ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ซึ่งยังไม่ถือว่าเป็น “การปะทะ” อย่างเป็นทางการ และขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้รายงานข่าวอย่างระมัดระวัง

พร้อมกันนี้ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ สมช. เวลา 14.00 น. โดยมีผู้นำเหล่าทัพและหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วม เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแนวทางรับมือ โดยยืนยันว่าทุกมาตรการของไทยจะยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องการหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้ง

ในช่วงเดียวกัน นายภูมิธรรมได้ออกแถลงชี้แจง ข่าวลือที่กล่าวหาว่าเขาเคยลงนามยกพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมให้กัมพูชา ว่าเป็น “ข่าวปลอมและเลอะเทอะ” พร้อมย้ำว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ทบ.ใช้ “แผนจักรพงษ์ภูวนารถ” – อนุมัติยิงปืนใหญ่ตอบโต้ 3 จังหวัดชายแดน
ด้านกองทัพบก โดย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษก ทบ. แถลงว่า ขณะนี้ได้นำ “แผนจักรพงษ์ภูวนารถ” มาปรับใช้เพื่อรับมือสถานการณ์ชายแดนฝั่งตะวันออก โดยอนุมัติให้ใช้อาวุธปืนใหญ่ตอบโต้ หลังตรวจพบว่ากองทัพกัมพูชานำปืนใหญ่มาประชิดแนวชายแดน และมีการยิงใส่ฝั่งไทย

พื้นที่ที่อนุมัติให้ใช้ปืนใหญ่ตอบโต้ครอบคลุมแนวชายแดน 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุรินทร์ และศรีสะเกษ โดย ทบ. ย้ำว่าจะปฏิบัติตามยุทธวิธีอย่างเหมาะสม เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของประเทศ

ไทยลดระดับการทูต – เรียกทูตกลับ-ส่งหนังสือประท้วง
ในอีกความเคลื่อนไหวสำคัญ นายภูมิธรรม ได้สั่งการให้ กระทรวงการต่างประเทศ ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา โดยเรียก เอกอัครราชทูตไทยประจำพนมเปญกลับประเทศ และให้ เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำไทยเดินทางกลับ พร้อมส่ง หนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ ระบุว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นกับระเบิดใหม่ ซึ่งเข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

พรรคประชาชนประณามกัมพูชา – เรียกร้องนานาชาติช่วยกดดัน
ในอีกด้านหนึ่ง พรรคประชาชน ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประณามการกระทำของกัมพูชาอย่างรุนแรง โดยระบุว่า การวางกับระเบิดใหม่ในพื้นที่ชายแดนซึ่งทำให้ทหารไทยบาดเจ็บสาหัส ถือเป็น การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และเป็นการบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน พรรคฯ เรียกร้องไปยัง ประชาคมระหว่างประเทศ ให้ร่วมกดดันรัฐบาลกัมพูชาให้ยุติการกระทำดังกล่าว และหันกลับมาใช้กลไกทวิภาคีเพื่อหาทางออกอย่างสันติ พร้อมกันนี้ ยังแสดงจุดยืนสนับสนุนให้ รัฐบาลไทยใช้มาตรการตอบโต้อย่างเข้มข้น และเรียกร้องให้เตรียมการปกป้องประชาชนตามแนวชายแดนให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
 

TAGS: #ชายแดนไทย-กัมพูชา #ภูมิธรรม #ศบ.ทก. #สมช. #กัมพูชา #ทุ่นระเบิด # แผนจักรพงษ์ภูวนารถ #กองทัพภาคที่2 #ปะทะ #ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง