นายกฯ"แพทองธาร" พร้อม รมช.กลาโหม เดินทางด่วนลงพื้นที่อุบลฯ ให้กำลังใจทหารเจ็บ 3 นายจากเหตุเหยียบกับระเบิด พร้อมชี้แจงการช่วยเหลือเต็มรูปแบบ ยืนยันตรวจสอบต้นตอระเบิด โปร่งใส

เวลา 08.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางจากกองบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก ดอนเมือง กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจทหารชุดลาดตระเวนที่ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ผู้บาดเจ็บเป็นกำลังพลจากหน่วย ร้อย ร.6021 จำนวน 3 นาย ประกอบด้วยนายสิบ 1 นาย และพลทหาร 2 นาย โดยหนึ่งในนั้นมีอาการสาหัสถึงขั้นขาขาด ซึ่งทั้งหมดพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ

พล.อ.ณัฐพล เปิดเผยว่า การเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะ รมว.วัฒนธรรม มีความตั้งใจส่วนตัวที่จะมอบเงินช่วยเหลือเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารผู้บาดเจ็บ พร้อมกับคณะของกระทรวงกลาโหมที่ลงพื้นที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับการดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ได้จัดสรรเงินช่วยเหลือทั้งจากทางราชการและส่วนตัว รวมกว่า 900,000 บาท และยังมีเงินพระราชทานเพิ่มเติมอีก 50,000 บาท พร้อมจัดสวัสดิการค่าตอบแทนรายเดือน และพิจารณาบรรจุญาติใกล้ชิดของทหารที่บาดเจ็บเข้ารับราชการ หากมีความประสงค์

ในส่วนของการสอบสวนเหตุการณ์ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ระเบิดที่ทหารเหยียบเป็นระเบิดเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ หรือเป็นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ หากพบว่าเป็นของใหม่จริง จะถือว่าเข้าข่ายละเมิด “สนธิสัญญาออตตาวา” ซึ่งห้ามการใช้และครอบครองกับระเบิดโดยเด็ดขาด พร้อมยืนยันว่า “ไม่มีการนิ่งเฉยแน่นอน” หากพบการกระทำที่ละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ

“ต้องพูดตามหลักฐาน ไม่ใช่ตามความเชื่อ แม้มีข่าวบางส่วนระบุอาจเป็นระเบิดใหม่ แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน ต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อน” พล.อ.ณัฐพล กล่าว พร้อมเสริมว่า ขณะนี้เร่งรัดให้ศูนย์ทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) ตรวจสอบให้เสร็จภายใน 2–3 วัน เพื่อคลี่คลายข้อสงสัย

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 2 เข้มงวดมาตรการลาดตระเวน พร้อมกำชับให้หน่วยในพื้นที่เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงตลอดแนวชายแดน