นายกฯ สั่งการ พาณิชย์- มท. เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ชายแดนโดยเร็ว พร้อมให้เดินหน้าเร่งปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเต็มที่ ลงพ้นที่ ให้กำลังใจทหารพรานชายแดนสระแก้ว
ห้องประชุมโสต 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการปิดด่านชายแดนไทย - กัมพูชา โดยมีพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บริหารส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมประชุม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายสรุปผลกระทบมาตรการการปิดด่านชายแดนไทย - กัมพูชา หลังจากที่มีการประกาศปิดจุดผ่านแดนและจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบของด่านศุลกากรอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไม่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าในทุกจุดผ่านแดน ส่งผลให้ในแต่ละวันของทุกจุดผ่านแดน ได้รับผลกระทบต่อมูลค่าการค้าอยู่ที่วันละประมาณ 330 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมถึงขอให้มีการสื่อสารทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อนด้านข้อมูลข่าวสาร
ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รายงานผลการกำหนดมาตรการผ่อนปรนการเดินทางผ่านด่านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ โดยชาวกัมพูชา สามารถเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ เฉพาะผู้ถือ Border Pass ของจังหวัดบันเตียเมียนเจยเท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเข้ามา ยกเว้นจักรยาน 2 ล้อ และอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ไม่เกิน 1 วัน ซึ่งเปิดให้เข้าวันละ 3 รอบ ดังนี้ 1. 08.00 - 09.30 น. (300 คน) 2. 10.30 - 12.00 น. (300 คน) และ 3. 13.00 - 15.00 น. (400 คน)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นปัญหาที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน โดยรัฐบาลตระหนักดีว่าการจำกัดการเข้า-ออกบริเวณชายแดนส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหารือแนวทางในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยประสานความช่วยเหลือผ่านกลไกของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง พร้อมเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบกระบวนการร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน และทบทวนมาตรการที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม รวมถึงได้มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งให้ความช่วยเหลือในด้านการระบายสินค้าคงค้าง และเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว
“สำหรับบริษัทเอกชนที่อยู่นอกอำนาจรัฐแต่มีพฤติกรรมหรือการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะกรณีเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ จะมีการพิจารณาดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศอย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนของนักเรียนโรงเรียนอรัญประเทศ โดยได้อวยพรให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการสอบ พร้อมกับร่วมถ่ายภาพกับนักเรียนอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านชายแดน พูดคุยกับประชาชน ผู้ประกอบการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ณ บริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมบังเกอร์ และพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลพื้นที่ชายแดน พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่เสียสละแรงกายแรงใจ ทำหน้าที่เป็น “รั้วของชาติ” เพื่อปกป้องประเทศและรักษาสันติภาพ
“เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชายแดนต้องเผชิญกับภารกิจที่ท้าทายและมีความเสี่ยงสูง ตนเองขอนำคำขอบคุณจากพี่น้องประชาชนมายังเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน มุ่งมั่น และปลอดภัย รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและดูแลเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเพื่อประเทศ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ลืมความเป็นอยู่และสวัสดิการของทหารแนวหน้า รวมถึงจะดำเนินการดูแลอย่างเต็มที่ ภายใต้ขอบเขตอำนาจของรัฐบาล” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และแม่ทัพภาคที่ 1 ร่วมกันมอบเครื่องอุปโภคและบริโภคแก่กำลังพลทหารพราน พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางลงพื้นที่พบปะครูและเยี่ยมนักเรียน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ต่อไป