ดร.ปณิธาน แนะ 6 ข้อ แก้เกมการเมืองระหว่างประเทศ

ดร.ปณิธาน แนะ 6 ข้อ แก้เกมการเมืองระหว่างประเทศ
“นักวิชาการด้านความมั่นคง ” แนะ รัฐบาล รีบแก้เกม หลังผู้นำประเทศ “เพลี่ยงพล้ำ” เป็นรองกัมพูชา

รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Panitan Wattanayagorn หัวข้อ “เมื่อผู้นำที่ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ประเทศ แล้วเพลี่ยงพล้ำทำไม่ได้: จะทำยังไงกันดี?” ระบุว่า
 

1. การเจรจาต่อรองระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากที่สุด โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องอธิปไตย ดินแดน หรือความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชน เพราะต้องอาศัยทุกอย่างที่มีในมือต่อรองกับอีกฝ่าย อย่างที่ทุกคนก็ได้เห็นได้ฟังกันแล้วในคลิปการสนทนาทางโทรศัพท์ของสองผู้นำเมื่อวานนี้

2. ก่อนการเจรจา ในระเบียบปฏิบัติประจำ (Standard Operating Precedure - SOP) ก็จะต้องมีการประชุมเตรียมการซักซ้อมความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ ของคณะที่ปรึกษาหลายด้านก่อน ส่วนฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศก็จะต้องกำหนดระเบียบพิธีการทางการทูตในการเจรจา การรักษาความลับและกติกาต่าง ๆ รวมทั้งบันทึกการสนทนา และฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ก็ต้องติดตามสถานการณ์และปฏิบัติการรักษาความลับและป้องกันความลับรั่วไหล เป็นต้น

3. หากทำตาม SOP ข้างต้นแล้ว ด้วยศักยภาพของประเทศ ด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญชำนาญของเจ้าหน้าที่ของเรา และยิ่งมีความสนิทสนมส่วนตัวที่ถือได้ว่าเป็นเครือญาติด้วยแล้ว นอกจากจะไม่เพลี่ยงพล้ำย่ำแย่ในการเจรจาต่อรองแล้ว น่าจะได้เปรียบในการรักษาผลประโยชน์ของชาติด้วยซ้ำ

4. แต่ในความเป็นจริง ทำไมไม่เป็นไปตามระบบระเบียบและข้อกฎหมายที่มี น้อยคนที่จะทราบได้ และคงอีกนานกว่าคนนอกอย่างเรา ๆ จะเข้าใจ

แต่ที่ทราบกันแล้วก็คือ กำลังเกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้นอย่างรวดเร็ว มีพรรคร่วมรัฐบาลลาออกไปแล้ว และก็อาจจะมีตามมาอีก รวมทั้งจะมีแรงกดดันตามมาอีกหลายด้าน ทั้งด้านกฎหมายและอื่น ๆ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น  ผู้นำของเราคงเหลือทางออกอยู่ไม่มาก เช่น

1) ลาออกและให้คนอื่นตามบัญชีรายชื่อมาเป็นแทนในขั้วเดียวกันด้วยมติสภาฯ (ถ้าตกลงกันได้กับพรรคร่วมเดิม ๆ)

2) ข้ามขั้วไปจัดตั้งรัฐบาลใหม่กับฝ่ายค้าน (แต่ต้องยอมให้เขาเป็นผู้นำแทน)

หรือ 3) ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แล้วให้ประชาชนเป็นฝ่ายตัดสินใจ

แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งด้วย ซึ่งก็คงน่าสนใจที่สุดสำหรับคนที่ต้องการอยู่ในอำนาจ คือ ไม่ออก ไม่เปลี่ยนขั้วไม่ยุบสภา แต่ขอโทษประชาชน เพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำผิดพลาด และก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย (จนกว่าจะพิสูจน์ทราบ) และพร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุงตนเอง รวมทั้งจะใช้กลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วในการทำงานให้ดีกว่านี้ (แต่อาจจะไม่อยู่ในแนวเดิมของตัวตน และอาจจะมีปัจจัยภายนอกกำกับอยู่)

ที่สำคัญคือ จะเพียงพอหรือไม่ และยังสามารถแก้ไขปัญหากับกัมพูชาได้ต่อไปหรืออย่างไร

5. ในระหว่างที่สถานการณ์การเมืองภายในประเทศกำลังผันแปรเช่นนี้ ทุกฝ่ายก็จะต้องระวังการรุกคืบของฝ่ายกัมพูชาและนายฮุน เซน ให้ดียิ่งขึ้น หวังว่าฝ่ายทหารและอื่น ๆ ที่ถูกระบุว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล จะไม่เสียกำลังใจ ถอดใจ หรือหมดสภาพหมดความชอบธรรมในการทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองให้ดีที่สุดในยามนี้ไปก่อน ก่อนที่ฝ่ายบริหารจะแก้ปัญหาของตนเองได้ลุล่วงไปโดยเร็ว

6. สุดท้ายแล้ว ผู้นำที่ดีจะต้องเป็นอย่างไร คงไม่มีใครอาจไปสอนไปสั่งได้ ตนเองเท่านั้นที่ต้องรู้ดีที่สุด เพราะคนอื่นอยู่ในฐานะผู้ตามทั้งสิ้น

แต่สิ่งที่ผู้ตามหรือคนใกล้ตัวนรม.อาจจะช่วยได้บ้างในยามนี้ ก็คือสิ่งเดียวกันที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เคยทำงานกับนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายคน ได้แนะนำผมเมื่อกว่า 15 ปีก่อน ก่อนที่ผมจะไปทำงานกับนายกรัฐมนตรีว่า "อย่าไปเกรงใจนรม." ถ้าเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์กับส่วนรวม ก็ให้บอกนรม.อย่างตรงไปตรงมา (ซึ่งยากที่สุดแต่ก็จะดีที่สุด) ขอขอบคุณผู้ใหญ่ท่านนั้นอีกครั้งในที่นี้ด้วยนะครับ

TAGS: #ยุบสภา #แพทองธาร #เพื่อไทย #ข่าวการเมือง