กระทรวงพาณิชย์ลุยแก้เกมปิดด่าน! เร่งระบายผลไม้ 2,500 ตันทั่วประเทศ ผนึกห้างค้าส่งกระจายสินค้า พร้อมดันกิจกรรม "ไทยช่วยไทย" ในรัฐสภา เสริมพลังเกษตรกรฝ่าวิกฤต
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในกำกับติดตามสถานการณ์การค้าในภาคตะวันออก ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลไม้ โดยเมื่อวันเสาร์ ที่ 14 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดเพื่อติดตามการซื้อขายผลไม้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พบว่า การซื้อขายยังเป็นปกติ การส่งออกทุเรียนและมังคุดคัดเกรดไปยังประเทศจีนสามารถส่งออกไปแล้วในปริมาณเยอะ และขณะนี้ผลผลิตอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งคาดว่าผลผลิตจะหมดภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
ขณะนี้การใช้ด่านหลักสองแห่ง ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาต ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เป็นเพียงจุดกระจายผลไม้ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อมีการปิดด่าน ผลไม้ไทยที่จะเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านมีปริมาณไม่มากนัก กรมการค้าภายในจึงได้เร่งเข้าไปประสานในพื้นที่ เพื่อนำออกกระจายนอกแหล่งผลิต ภายในประเทศ โดยตลาดภายในประเทศสามารถรองรับผลผลิตในส่วนนี้ได้เพื่อช่วยระบายผลผลิตและรักษาเสถียรภาพราคา
นายวิทยากร กล่าวต่อว่า กรมการค้าภายในจึงได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชนหลากหลายภาคส่วน เพื่อผลักดันผลไม้ภาคตะวันออกในช่วงปลายฤดูกาลนี้โดยตั้งเป้าไว้จำนวน 2500 ตัน โดยเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย. 68) กรมได้ร่วมกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซื้อมังคุดคัดเกรดขนาดกลางในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 1,000 ตัน เพื่อจำหน่ายในห้างแม็คโครและโลตัสทั่วประเทศ และยังมีห้าง โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ซึ่งจะเข้ามารับซื้อผลไม้ในช่วงนี้ด้วย
"กรมการค้าภายในขอยืนยันว่า จากข้อกังวลของเกษตรกรหรือประชาชนจากเหตุการความไม่สงบบริเวณชายแดนของกัมพูชา กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์การค้าขายอย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนรองรับผลผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาให้พี่น้องเกษตรกร"
วุฒิสภาผุดไอเดียเปิด "รัฐสภาโมเดล" รับซื้อผลไม้ไทย
เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา วุฒิสภา จัดกิจกรรม "ไทยช่วยไทย ร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของชาติ" โดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในฤดูกาลผลิตปีนี้สภาพดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีจำนวนมาก เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มังคุด เงาะ ทุเรียน เป็นต้น ทำให้ผลไม้ตามฤดูกาลมีราคาตกต่ำ ประกอบกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณ ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทางกัมพูชาได้ออกมาตรการงดนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ที่อาจได้รับผลกระทบต่อเกษตรกรไทย
นายมงคล กล่าวว่า ทางวุฒิสภาพร้อมประสานความร่วมมือกับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบหาทางระบายผลผลิตทางการเกษตรในราคาที่ยุติธรรม เนื่องจากรัฐสภามีสถานที่ขนาดใหญ่ มีบุคลากร รวมกว่า 5,000 คน สามารถรองรับช่วยเหลือได้ ซึ่งในวันนี้มีการนำมังคุด1,000 กิโลกรัม มะม่วงน้ำดอกไม้ 300กิโลกรัม และทุเรียน100กิโลกรัมมาจำหน่ายภายในพื้นที่รัฐสภา หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจะมีการขยายผลในระยะต่อไป
นายมงคล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้วุฒิสภายังเตรียมร่วมกับกลุ่มมิตรภาพ พร้อมประสานกับสถานทูตประเทศต่างๆ เพื่อมอบผลไม้ไทยเป็นของฝากและประชาสัมพันธ์คุณภาพผลผลิตของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยอาศัยเครือข่ายกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาต่างประเทศเป็นตัวกลางเชื่อมโยง
"วุฒิสภาพร้อมเป็นสื่อกลาง และใช้สถานที่ภายในรัฐสภาซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ในการรองรับผลผลิตทางการเกษตรของพี่น้องเกษตรกร เพราะนี่คือหน้าที่ที่เราต้องร่วมกันช่วยเหลือในช่วงเวลาวิกฤต และขอเชิญสื่อมวลชนและประชาชนร่วมเป็น กำลังใจและสนับสนุนสินค้าเกษตรไทยใน เพื่อยืนหยัดเคียงข้างเกษตรกรไทย เราจะจัดกิจกรรมดังกล่าวไปเรื่อยๆ เพื่อระบายสินค้าโดยเฉพาะสินค้า และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาไทย จะมีการจัดจำหน่ายสินค้าทุกเดือน โดยกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา เป็นเจ้าภาพหลัก อย่าลืมว่าสว.มาจากทุกสาขาอาชีพ รวมถึงอาชีพเกษตรกรเกษตรกรด้วย" นายมงคลกล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้กัมพูชาปิดกั้นการนำเข้าผัก ผลไม้จากประเทศไทยแล้วจะช่วยเกษตรกรอย่างไร นายมงคลกล่าวว่าหากที่ไหนถูกปิด ที่ไหนขายไม่ได้ ให้เอามาที่รัฐสภา เราขายแป๊บเดียวก็หมดแล้ว วันนี้ที่เอามาก็ไม่พอขาย
เมื่อถามว่าการปิดการปิดด่านในครั้งนี้ จะมีผลกระทบหรือไม่ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตนได้สอบถามทางผู้ว่าราชการราชการจังหวัดในพื้นที่ติดชายแดนแล้ว พบว่ามีผลกระทบไม่มาก เพราะเกี่ยวข้องกับกำลังซื้อ ทางประเทศเพื่อนบ้านเอง ก็มีการผลิตผลผลิตทางการเกษตรเช่นกันเราจึงไม่ได้ส่งผลผลิตทางการเกษตรไปกัมพูชาเป็นหลัก เป็นเพียงแค่ตลาดท้องถิ่น